Category Archives: กลยุทธ

วิถีบูรพา

วันนี้หลังจากอ่านหนังสือโลกานุวัฒของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล จบ ก็รีบไปหาหนังสือมาเช่าต่อทันทีตอนพักเที่ยง เพื่อเตรียมอ่านฆ่าเวลาตอนนั่งเรียน DBMS ช่วงบ่าย ไม่งั้นง่วง และฟุ้งซ่านชิบเป๋ง

ห นังสือที่ผมยืมมา ชื่อ วิถีบูรพา ของ ดร.สุวินัย ภรณวลัย มีอยู่บทหนึ่งท่านกล่าวถึง สุดยอดเคล็ดวิชา “ดาบอยู่ที่ใจ” ของท่านทากุอันในคัมภีร์ “ฟุโดจิชินเมียวโรกุ” หรือ คัมภีร์พระอจลนาถ (คัมภีร์แห่งจิตพระผู้ไม่หวั่นไหว) ซึ่งหาอ่านได้ยากมากๆ ซึ่งคัมภีร์นี้ไม่เพียงแต่ประยุกต์ใช้ในวิชาดาบ แต่ยังให้แง่คิดและทางสว่าง เพื่อใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้ด้วย ซึ่งบางทีมันทำให้ผมคิดว่าเหมือนเป็นคำตอบที่ผมเคยถามตัวเอง ผมจะขอสรุปสั้นๆ มาให้อ่านสองบทครับ

บทที่ 1 “ว่าด้วยใจที่ไม่ยึดติด”
อวิชชาและจิตที่ยึดติด คือ ที่มาแห่งทุกข์
อวิชชา คือ ความหลง คือ ความไม่รู้แจ้ง
จิตที่ยึดติด คือ การที่ไปจดจ่อไปอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

ห ากท่านอยู่ต่อหน้าคู่ต่อสู้ที่กำลังฟันดาบ และท่าน “คิด” ที่จะยกดาบตั้งรับ นั่นคือ จิดท่านอยู่ที่ดาบ มันจะทำให้การเคลื่อนไหวไม่สมบูรณ์ และท่านจะเป็นฝ่ายที่ถูกฟัน แต่สิ่งที่ท่านทำคือควรจะดู แต่แค่จงดูเท่านั้น อย่าจดจ่อ แต่เคลื่อนไหวให้สอดคล้องกับการทำงานของดาบ โดยไม่คิดฟันตอบ ไม่คิดแพ้ ไม่คิดชนะ ไม่คิดแบ่งเขาแบ่งเรา เพียงเมื่อท่านเห็นดาบ และไม่ลังเลว่าจะกระโจนเข้าใส่ ดาบมันจะทำหน้าที่ของมันเอง ต่อให้ท่านไม่มีดาบ ก็จะชิงดาบจากศัตรูได้ ในเซนจะเรียกว่า “การคว้าหอกปรปักษ์มาแทงปรปักษ์ที่มุ่งหมายจะมาทิ่งแทงเรา” (อ่านแล้วคล้ายๆพิชัยสงครามซุนวูที่ผมเคยบอกไว้ว่า “ชนะโดยไม่คิดที่จะเอาชนะ”)

เปรียบเทียบในชีวิตประจำวันของเรา ครั้งหนึ่งผมกินมะขาม ต้องการปาออกนอกหน้าต่างที่มีลูกกรงอยู่ เล็งอย่างดี แต่มันก็โดนลูกกรงแล้วเด้งกลับมา แต่เมื่อตั้งใจโยน แต่ไม่คิดไม่เล็ง(ไม่จดจ่อ) มันดันออกไปนอกหน้าต่างได้ หรือางครั้งไม่ตั้งใจทำอะไร แต่กลับออกมาสวยงาม เออ แปลกดี คิดว่าทุกคนคงเคยเจอ

บทที่สอง “เคลื่อนเหมือนไม่เคลื่อน”
ปัญญาที่ไม่หวั่นไหวของเหล่าพุทธะ
ไ ม่ใช่หมายถึงไม่เคลื่อนเหมือนหินนะครับ แต่หมายถึงไม่ถูกยึดติดโดยสิ่งใดนั่นเอง เช่น มีคนถือดาบจะฟันเราสิบคน ถ้าเรารับการโจมตีของแต่ละคนได้อย่างต่อเนื่องโดยใจของเราไม่ให้ใจของเราไปต ิดขัดกับใครๆ หรือที่ใดๆ หรือดาบเล่มใด เราย่อมต่อกรได้อย่างไม่มีปัยหา สรุปคือ ไม่ไปยึดติดกับใครสักคน มันจะไม่ติดขัด แต่หากยึดกับคนหนึ่ง แต่คงต้องเสียท่าให้กับคนที่สอง เพระาไม่เคลื่อนไหวไม่ได้อย่างอิสระอีกต่อไปแล้ว เพราะมีความจดจ่อนั่นเอง

เ ปรียบเทียบกับชีวิตประจำวันของเรา ให้ท่านเพ่งเกสรดอกไม้ ท่านก็จะเห้นเกสรดอกไม้ จะเห็นทั้งดอกได้อย่างไร จะเห็นความสวยงามของดอกไม้ได้อย่างไร (เอาไว้อ้างอาจารย์เวลานั่งหลังห้องว่า ผมไม่อยากนั่งหน้าเพราะโฟกัสมันแคบ จดจ่อได้เป็นจุดๆ เลยต้องนั่งหลัง เห็นทั่วกระดานและทั่วห้องดี :D)

อ่านแล้วก็ได้อะไรเยอะดีครับ แห่งวิถีบูรพา

จาก http://ifew.exteen.com/20060109/entry 

Share

ครั้งหนึ่งของพิชัยสงคราม

วันก่อนได้คุยกับพี่หมอเชน
พี่เชนถามเรื่องปัญหางานในบริษัท
ปัญหานี้มันเป็นสิ่งที่กระเพื่อมใต้น้ำมาตลอดเวลา
ทำให้บริษัทที่ผมทำงานด้วยสะดุดไม่เป็นท่าบ่อยๆ

บ่อยครั้งที่ผมปล่อยไปเพราะ ยังไงเสียฟ้าดินก็รู้
ฟ้าในที่นี้ผมหมายถึงผู้มีความคิดเหนือกว่า
และดินในที่นี้หมายถึงตัวของผู้กระทำ

การทำงานมันเป็นสิ่งซับซ้อนอย่างที่เราๆ ท่านๆ ได้เจอ
ผมพยายามกับมัน เพื่อรักษาความสมดุลให้เกิด
แม้ว่ามันจะต้องทำให้เพื่อนร่วมงานอดทนเผชิญอยู่กับผู้กระทำผิด

พี่เชนบอกว่า บางครั้ง ความสมดุลไม่ได้หมายถึงการอยู่ตรงกลาง
แต่เราต้องเอียงข้างบ้างเพื่อปรับสมดุล ” มันคือแก่น ”

ต้นหญ้าพริ้วไหวตามลม จึงอยู่รอด
ไม้ใหญ่ทนทานต้านลม จึงหักล้ม
ต้นหญ้ามิได้ปะทะลม จึงอยู่รอด
ไม้ใหญ่ปะทะลม จึงหักล้ม
ต้นหญ้ามิทำให้ลมแปรปรวน จึงอยู่รอด
ไม่ใหญ่ทำให้ลมแปรปรวน จึงหักล้ม

พี่เชนใช้คำนี้ว่า ” วีรบุรุษรู้สถานการณ์ ”
ถ้าไม่ถูก จำเป็นต้องเอียง ก็ต้องเอียงบ้าง

ผมนับถือจริงๆ คนแบบนี้
ช่างจัดชีวิตได้ลงตัว และ สมบูรณ์แบบ…

บ่อยครั้ง ตาโอ เตือนสติผมหลายครั้งด้วยพิชัยสงคราม
แม่ทัพสั่งการครั้งแรก ลูกทัพไม่ทำตาม
เป็นความผิดที่แม่ทัพ สั่งการไม่ชัดเจน
จึงต้องอธิบาให้ชัดเจน และถามความเข้าใจ
หากเมื่อเข้าใจดีแล้วจึงสั่งการครั้งต่อไป
แต่เมื่อแม่ทัพสั่งการครั้งที่สอง ลูกทัพไม่ทำตาม
จึงเป็นความผิดที่ ลูกทัพประการเดียว
สิ่งที่ต้องทำคือ ” ตัดหัว ”

วันนี้..
ในหนังสือเชิญพนักงานออก
จึงมีชื่อผมร่วมรับทราบอยู่ในนั้นด้วย

ที่จริงมันควรจะเกิดขึ้นตั้งนานมาแล้ว
แต่ผมคงมีกังวลหลายๆอย่าง
จึงเป็นคนที่คอยทัดทานอยู่ตลอดเวลา
แม้ขณะจรดปากกา ผมยังคงคิดเสมอ

“เราคิดถูกแล้วใช่ไหม..
จะมีปัญหาใดตามมาไหม..
และเราจะรับมือได้อย่างไร..”

เพราะสิ่งที่ผมกลัว ผมไม่ได้กลัวการมาแบบซึ่งๆ หน้า
แต่ผมกลัวการเผชิญศึกแบบกองโจร

แม้ว่าสิ่งที่ทำมันคือการเอียงเพื่อรักษาสมดุล
และสามารถทำตามกฏแห่งการปกครองได้

แต่หากทำกับคนพาลแล้ว
สิ่งที่ตามมาย่อมเป็นความชั่วช้า
และไม่สามารถคาดเดาตามรูปแบบปกติได้อย่างแน่นอน

ผมเกลียดจริงๆ…

จาก http://ifew.exteen.com/20070524/entry 

Share