Category Archives: กลยุทธ

8 วิธีให้เงินไหลมา โดยนอนอยู่นิ่งๆได้

ถ้าหากใครเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจมาเยอะแล้ว พวกนี้อาจจะเป็นสิ่งที่คุ้นเคยกันดีหรือว่าเห็นกันบ่อยๆกันเลยทีเดียว แต่วันนี้ผมนำมาสรุปย่อๆ เลยเท่าที่ผมคิดออกกันเลยทีเดียว ทุกอย่างคือการลงทุนครับ แต่คุณจะลงทุนด้วยอะไรเท่านั้นเอง…. เงินหรือความพยายามนั้นเอง

  1. การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ถ้าใครเคยอ่านหนังสือธุรกิ จคงจะพอรู้มาบางว่าอสังหาริมทรัพ์สามารถทำเป็นระบบสร้างเงินได้ โดยการให้คนเช่า คุณจะได้เงินเพิ่มโดยไม่ต้องเสียเวลามากนักหรือยิ่งทำระบบดีๆ ก็จะทำให้นอนนิ่งๆแล้วได้เงินกันเลยทีเดียว เช่น Apartment ที่เราจ้างคนมาคุม
  2. ตลาดหลักทรัพย์หรือหุ้นนั้นเอง ผมละคนหนึ่งที่คิดว่าห ุ้นนี้และเป็นการนั่งกินนอนกินที่ดีที่สุดถ้าเราเล่นหุ้นเป็น , รอบคอบ แล้วเก่งแน่นอนผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่าเลยทีเดียว โดยถ้าเอาตามหลักนั่งกินนอนกินเราต้องเลือกหุ้นที่จ่ายปั่นผลดีๆและบ่อยๆนั้ นเอง แล้วต้องเป็นหุ้นที่เจริญเติบโตเรื่อยๆ เช่น หุ้นพลังงาน
  3. บริการ + การบริหาร ผมตีความให้ง่ายอย่างคุณมีร้านก๋ว ยเตี้ยว มีบริการคือให้ก๋วยเตี้ยวแกลูกค้ากิน มันจะไม่สามารถสร้างเงินต่อเนื่องได้โดยนอนนิ่งๆได้ แต่ถ้าประกอบด้วยการบริหาร เช่น จ้างลูกน้องมาทำ , สร้างระบบควบคุม (การติดตั้งกล้องกันการโกงของลูกน้อง) แบบนี้ถึงจะกลายเป็นระบบทำเงินอัตโนมัติ อะไรแบบนี้เป็นต้น
  4. ตู้หยอดเหรียญ สิ่งนี้และที่ทำให้คนๆหนึ่งรวยโดยอยู่เฉยๆกันได้เลยทีเดียว ผมมีญาติอยู่คนหนึ่งเขาทำธุรกิจตู้หยอดเหรียญมีเงินเดือนละ 50,000 บาทได้โดยทีเขาไม่ต้องเสียเวลาอะไรมากนักเพียงแค่เดือนหนึ่งก็ไปตรวจสภาพสัก ครั้งเอง โดยส่วนใหญ่จะเป็นตู้น้ำหยอดเหรียญ !!
  5. ปล่อยกู้ อันนี้ไม่แนะนำให้ทำครับความเสี่ยงสูงมาก แต่ถ้าเลือกคนปล่อยนี้อีกเรื่องครับ ปล่อยก็เนี้ยเป็นเสมือนการได้ดอกเบี้ยนั้นเองทำให้เรานั่งกินนอนกินได้เลย แต่อย่างว่าครับเสี่ยงโคตรๆ
  6. ดอกเบี้ยเงินฝาก กลับมาสู่ Basic อันนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากยิ่งฝากเยอะยิ่งได้เงินเยอะ !! ความเสี่ยงน้อยถ้าฝากในธนาคารที่ได้มาตรฐานแล้วอยู่มานานแล้ว ส่วนใหญ่จะได้ดอกเบี้ยต่ำไม่เหมือนสมัยก่อนดอกเบี้ยนี้เยอะมากๆ ทบต้นได้สบายเบิ้ลๆๆ ได้เร็วมาก
  7. ลงทุนในกองทุนต่างๆ ลักษณะจะคล้ายๆหุ้น แต่ว่าพวกนี้ส่วนใหญ่ได้ผลประโยชน์แน่นอนแต่ต้องใช้เวลาแล้วก็มีความเสี่ยงอ ยู่ แต่บางกองทุนก็มีผลประโยชน์ที่เป็นระบบให้เงินอัตโนมัติเป็นช่วงๆได้นะ
  8. พื้นที่ทำมาหากิน บางทีการลงทุนกับพื้นที่ก็สามารถสร้ างรายได้ เช่น ให้เปิดแผงลอย , แบกะดิน แล้วเก็บค่าเช่าเอา หรือว่าจะทำเป็นที่จอดรถก็ยังได้ดังนั้น การลงทุนในพื้นที่ทำมาหากินนี้เป็นการต่อยอดเพื่อทำ Service ต่างๆหรือให้เช่าได้อย่างดีเยี่ยมอีกวิธีหนึ่ง

เป็นยังไงบางครับ 8 วิธีนี้โดยส่วนใหญ่โลกของเราที่มองเห็นชัดๆคือข้อ 3 นั้นเองซึ่งมีอยู่มากมายแล้วสามารถพัฒนาได้มากมาย ใครมีเทคนิคดีๆมา share กันบางนะครับที่สามารถทำเงินได้โดยอยู่นิ่งๆขอแบบทำได้จริงแล้ววิชาการนิดหน ึ่งครับ

“การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาก่อนลงทุน”

ที่มา: http://www.dominixz.com/

Share

20 วิธีการจัดการแรงจูงใจ

พอดีวันนี้ผมได้มีโอกาศเข้าไปอ่านเนื้อหาของ Zenhabits โดยผมดูที่ Top Post ของเขาเจอหัวข้อหนึ่งน่าสนใจสุดๆ Top 20 Motivation Hacks เลยแปลมาให้ฟังกัน

20 วิธีการจัดการแรงจูงใจ

  • ทำชาร์ตความก้าวหน้า เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเราประสบความสำเร็จไปถึงไหนแล้ว ถ้าหากมีุจุดที่ไม่ดีจงอย่าท้อแท้และสู้ต่อไปเพื่อสร้างจุดที่ดีต่อไป
  • สิ่งที่ตัวเองอยากทำ 100% ให้ทำเพียง 50%-75%
  • เข้าสังคมทั้งแบบ Offline หรือ Online เพื่อให้คุณมีแรงจูงใจและมีเป้าหมายที่มั่นคง
  • นำภาพความสำเร็จของคุณมาวางไว้ที่คุณเห็นบ่อยๆ แ้ล้วนึกถึงมันบ่อยๆ (ข้อนี้จริงอย่างแรง)
  • หาเพื่อนร่วมงานหรือคนที่อยากประสบความสำเร็จเหมือนกันในเป้าหมายที่ตั้งไว้เหมือนกับเรา
  • เริ่มทำมันซะ !!! (ผมกว่าจะฝ่าคำนี้ออกมาได้นานอยู่เหมือนกันนะ)
  • ทำให้มันสนุกสนาน ถ้าสิ่งที่คุณอยากจะทำเป็นเรื่องที่สนุกสนานการทำงานนั้นจะดีกว่าคุณทำเพื่อ จุดประสงค์อื่นถ้าคุณสนุกไปกับมันคุณจะทำได้ดี
  • ต้องใช้เวลาและอดทน (คนไฟแรงนี้เซร็งเลยเจอข้อนี้แต่มันคือเรื่องจริงครับ)
  • แตกย่อยเป้าหมายใหญ่ๆเป็นเป้าหมายย่อยๆ (เพื่อที่จะเห็นความก้าวหน้าเป็นขั้นๆ)
  • ให้รางวัลตัวเองบ่อยๆ (จะได้มีกำลังใจทำต่อไปเรื่อยๆไง)
  • ค้นหาแรงบันดาลใจ อย่างสม่ำเสมอ
  • หาผู้แนะนำหรือไปเรียนเพิ่ม (่หาสิ่งแปลกๆใหม่ก็เป็นการเรียนนะ)
  • มีเหตุผลอย่างเต็มที่และเขียนมันซะ เพราะการมีเหตุผลในสิ่งที่เราสนใจมันจะให้ความมีพลังมากกว่าเป็นสิ่งที่คุณสนใจเฉยๆ
  • กา่รตระหนักและกระตุ้นให้มันออกมาและเตรียมตัวสำหรับมัน สำหรับข้อนี้ผมมองว่าเขาหมายถึงให้นึกสิ่งที่เราอยากจะทำแล้วมันจะัเกิดเป็น Idea ให้เราเขียนและเตรียมตัวก่อนจะลงมือจริง
  • ทำให้เป็นกฎไม่ใช่ทำผลัดวันประกันพรุ่ง (ข้อนี้ก็จริงแท้ๆ)
  • มโนภาพถึงเป้าหมายให้ชัดเจนในแต่ละวันอย่างน้อยก่อนทำ 5-10 นาที
  • ทำบันทึกประจำวันเกี่ยวกับเป้าหมายของคุณ
  • สร้างเพื่อนใหม่ซึ่งเกลือหนุนและแข่งขันกัน (ผมโชคดีที่ได้ Zelandiax เป็นคนให้กำลังใจ (คน Comment ให้ผมคนแรกแล้วติด Link ให้ผม :))
  • สร้างความรับผิดชอบต่อสาธารณะชน รับผิดชอบแบบ 100% (การสร้างความรับผิดชอบทำให้คุณมีระเบียบ) เช่นการทำ Blog ก็จะทำให้คุณมีระเบียบมากขึ้น (จริงๆนะถ้ามีคนเข้ามาอ่านเยอะๆ ^^)
  • คิดในทางที่ดีอยู่เสมอ ล้างความคิดที่ไม่ดีออกให้หมด พลังแห่งการคิดในแง่ดีมีพลังมากในการเกิดสิ่งมหัศจรรย์ !! (การที่เราคิดถึงสิ่งแย่ๆมักจะทำให้เราล้มเลิกด้วย)
  • ผมชอบเก็บพวกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยพวกนี้ไว้มากๆ มันช่วยให้เราไม่ต้องหาคำตอบเอาเอง บางทีมันเป็นคำตอบที่ตรงใจเรามั่งไม่ตรงใจเรามั่ง ก็ปรับเปลี่ยนแก้ไขให้มันตรงใจเรา แล้วเขียนเป็นทฤษฎีของตัวเองก็ดีไปอีกแบบนะครับ

    ที่มา: http://www.dominixz.com/

    Share

    ใครเอาเนยแข็งของฉันไป

    มีตัวละครขนาดจิ๋วอยู่ 4 ตัว
    วิ่งวนอยู่ในเขาวงกต ซึ่งสลับซับซ้อนแห่งหนึ่ง
    เพื่อเสาะหาเนยแข็งอันเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต
    ในนี้มีสองชีวิตเป็นหนู ตัวหนึ่งชื่อ “สนิฟฟ์” กับ”สเคอร์รี่”
    ส่วนมนุษย์แคระอีกสองคนชื่อ “เฮ็ม”กับ “ฮอว์”
    ทั้งสี่ชีวิตใช้เวลาในแต่ละวันในการวิ่งหาเนยแข็งในเขาวงกตนั้น

    เจ้าหนู สนิฟฟ์ และ สเคอร์รี่ ใช้วิธีลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ โดยใช้จมูกเป็นเครื่องนำทาง
    พวกมันจะจำทางที่ไม่มีเนยแข็งไว้ แล้ววิ่งไปทางอื่นจนถูกทาง ส่วนคนแคระ
    เฮ็ม กับ ฮอว์ ก็ใช้ความรู้และประสบการณ์ในอดีตเข้าช่วย
    ในที่สุดทั้ง 4 ชีวิต ได้พบกับคลังเนยแข็งขนาดใหญ่
    ที่ดูเหมือนมีเนยเพียงพอที่ให้กินไปได้ตลอดชีวิต
    พวกเขาได้พบแหล่งอาหารอันวิเศษที่แสนสะดวกสบาย
    และไม่ต้องวิ่งตระเวนหาอีกต่อไป

    เวลาผ่านไปจนมาถึงเช้าวันหนึ่ง ทั้ง 4 ชีวิต
    ได้พบว่าเนยแข็งกำลังจะหมดไป เจ้า สนิฟฟ์
    เห็นเช่นนั้นก็ไม่เสียเวลาวิเคราะห์ มันออกวิ่งค้นหาเนยแข็งก้อนใหม่ทันที
    ส่วนเจ้า สเคอร์รี่ เห็นเช่นนั้นก็วิ่งตามโดยไม่รอช้า สนิฟฟ์ ไปถึงไหน
    สเคอร์รี่ ก็ไปที่นั่น

    คนแคระ เฮ็ม กับ ฮอว์
    ไม่คาดมาก่อนว่าเนยแข็งจะหมดไป เฮ็ม
    ถึงกับตีโพยตีพายกล่าวโทษเทวดาฟ้าดินว่า ไม่ยุติธรรมกับเขา
    แล้ววิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ว่าเนยแข็งควรจะกลับมาหาเขาอีก

    แต่ ฮอว์ ดูจะยอมรับความจริงได้มากกว่า
    เขาเริ่มคิดว่า เขาควรทำการเปลี่ยนแปลง เขาจึงชวน เฮ็ม
    ให้ออกไปหาเนยแข็งใหม่แบบที่หนูสองตัวกำลังทำอยู่ ปรากฏว่า เฮ็ม
    ไม่ยอมรับฟัง ฮอว์ จึงไปสู่เขาวงกตตามลำพัง

    และแล้วเจ้าหนูทั้งสองก็ได้พบคลังเนยแข็งแห่งใหม่ที่ดีและใหญ่กว่าเดิม

    ฮอว์นั้นแม้จะออกมาช้ากว่าเจ้าหนูทั้งสอง
    แต่ในที่สุดเขาก็ได้พบคลังเนยแข็งใหม่ เช่นกัน เขาจึงกลับไปชวน เฮ็ม
    ให้ออกมาจากสถานการณ์ที่ไม่มีเนยแข็งเหลืออยู่ แต่ เฮ็ม กลับปฏิเสธ
    ทั้งยังไม่ยอมรับเนยแข็งที่ ฮอว์ อุตส่าห์เอาไปฝาก ฮอว์
    จึงจำใจต้องปล่อยเพื่อนไว้เช่นนั้น

    ระหว่างที่ ฮอว์
    ออกมาเผชิญโชคครั้งใหม่ ความคิดของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ทีละน้อย
    เขาสรุปสัจธรรมแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยเขียนไว้บนกำแพงเป็นระยะๆ
    “ถ้าคุณไม่เปลี่ยนแปลง คุณอาจจะสูญพันธุ์”

    ฮอว์ สุขสบายอยู่ในคลังเนยแข็งใหม่
    แต่ก็ยังคิดและหวังว่า เฮ็มเพื่อนรักจะตามมาตามลายแทง
    และข้อคิดที่เขาบอกทางไว้ให้ แล้ววันหนึ่ง ฮอว์
    ก็ได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากทางเดินข้างนอก นั่นอาจจะเป็น เฮ็ม ก็ได้ใครจะรู้

    4 ชีวิต
    เป็นตัวแทนแห่งสัญชาตญาณและความคิดในการตอบโต้ต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
    สนิฟฟ์ เป็นผู้ดมกลิ่นการเปลี่ยนแปลงได้ก่อนใคร จึงนำออกไปก่อน
    สเคอร์รี่ ไม่คิดอะไรเลย วิ่งตามกระแสอย่างเดียว
    เฮ็ม เป็นผู้ปฏิเสธและต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
    โดยคิดว่าการเปลี่ยนแปลงจะปรากฏโฉมในทางเลวร้ายก
    ว่าเดิม
    ส่วน ฮอว์ เป็นคนเรียนรู้และปรับตัวตามยุคสมัย
    เมื่อเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

    ในโลกแห่งธุรกิจ และโลกแห่งการทำงาน
    มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย
    นิทานเรื่องนี้อาจให้แง่คิดที่เตือนให้ผู้คนมองเห็นการเปลี่ยนแปลง
    และเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด

    Share