อายุยืน 100 ปี ตามแบบฉบับเคล็ดลับชาวญี่ปุ่น

หยิบเครื่องเทศ สมุนไพรมาใส่อาหารบำรุงให้อายุยืน 100 ปี (สุขกายสบายใจ)
เรื่อง : สุธารัชฎ์ รัตนารามิก

การจะมีชีวิตอยู่ให้ถึงอายุ 100 ปีคงไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งสำคัญต้องมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง หากยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างไร ลองดูพฤติกรรมของชาวโอกินาว่าในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มคนที่มีอายุยืนที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก พวกเขามีเคล็ดลับอยู่ที่การเพิ่มเครื่องเทศและสมุนไพรในอาหาร และให้ความสำคัญกับการออกกำลังทั้งกายและใจ ซึ่งวิธีเหล่านี้เราก็สามารถปฏิบัติตามได้ครบทุกขั้นตอน ไม่เพียงเท่านี้ยังเสริมด้วยเรื่องของเกร็ดสุขภาพทั้งกายใจ ที่ทำง่ายในทุกวันอีกด้วย

กินดี อยู่ดี มีความสุข…ตามแบบฉบับชาวโอกินาว่า

ชาวโอกินาว่ามีชีวิตประจำวันที่เหมือนกับชาวชนบททั่วไปคือ เน้นกินผักเป็นหลัก กินเนื้อเป็นรอง แทบทุกเมนูต้องใส่เครื่องเทศ และสมุนไพร ในเรื่องสุขภาพใจ พวกเขาขึ้นชื่อเรื่องคิดบวก เพราะเชื่อว่าการมีทัศนคติที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญในการมีอายุยืน ที่สำคัญคือ พวกเขาเก่งมวยไท้เก็ก ซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบเน้นเรื่องการฝึกลมหายใจและทำสมาธิ ด้วยวิธีการเหล่านี้เองที่ทำให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดี จนสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 100 ปี

8 อาหารสำคัญของชาวโอกินาว่า

1.มะระ นิยมนำมาปรุงอาหารขณะที่ยังไม่สุกงอมดี โดยการนำมาผัดกับเต้าหู้ ใส่ไข่ แล้วผัดด้วยน้ำมันคาโนลา หรือฝานบาง ๆ ใส่ในแซนด์วิช หรือใช้เป็นผักเคียงในเมนูซูซิ

2.แครอท ชาวโอกินาว่าไม่นิยมทานหัวแครอทเหมือนบ้านเรา แต่จะใช้ใบสีเขียวของแครอทมาประกอบอาหารโดยการนำใบมาสับละเอียด ตอกไข่ใส่ แล้วผัดกับข้าวกล้องหรือนำไปเป็นผักโรยในซุป

3.Hechima หรือบวบญี่ปุ่น นิยมนำไปเป็นผักเครื่องเคียง กินกับเต้าหู้ในซุปมีโสะ

4.สมุนไพรเผ็ดร้อน ซึ่งเชื่อว่ามีคุณสมบัติรักษาโรค เช่น ขมิ้น ช่วยป้องกันการติดเชื้อ พริกช่วยบำรุงหัวใจ เมล็ดยี่หร่าช่วยอาหารโดยนำมาปรุงเป็นส่วนประกอบในเมนูบะหมี่สูตรน้ำซุป หรือใส่ลงในมนูผัดผัก

5.สาหร่าย นิยมนำมาใช้ปรุงอาหารมากกว่าผักชนิดอื่นเพราะหาง่าย เช่น คอมบุ โนริ ฮิจิกิ วากาเมะ เป็นต้น โดยการนำไปแปรรูปเป็นสาหร่ายแผ่นทอดกรอบ อบแห้ง ใส่ในซุป หรือนำไปห่อข้าว

6.มันเทศ นิยมนำไปทำเป็นมันทอด โดยหั่นเป็นชิ้นหนา 1 นิ้ว นำไปทอดด้วยน้ำมันมะกอก หรือ หรือใช้มันเทศทั้งหัวไปเผาสุมในกองใบไม้แห้ง ไว้กินเล่นในฤดูหนาว

7.โฮลเกรน ชาวโอกินาว่าเชื่อว่าการบริโภคธัญพืช เช่น ข้าวบาเล่ย์ ข้าวฟ่าง ข้าวกล้อง สามารถเติมพลังให้กับจิตวิญญาณได้ จึงนิยมนำไปหุงผสมชนิดกันเพื่อทำเป็นข้าวพิลาฟ (Pilaf) หรือข้าวที่หุงรวมกับสมุนไพร ธัญพืช หรือเครื่องเทศ

8.ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ มิโสะ และถั่วแระนิยมนำถั่วแระผัดในข้าว หรือใช้มิโสะเป็นซูป และอีกเมนูนิยมของชาวโอกินาว่าก็คือ การใช้เต้าหู้ทำชีสเค้ก

อายุยืนด้วย 5 สมุนไพรหาง่ายในครัวบ้านเรา

1.กระเทียม ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ตามผลวิจัยของ National Health and Medical Research Council เผยว่า การบริโภคกระเทียม แค่ 1 หัวต่อวันช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ เพราะสารประกอบไฮโดรเจนซัลไฟด์ (Hydrogen sulphide) ช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้เป็นปกติ

2.ขมิ้น บำรุงข้อต่อ ด้วยสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ที่มีคุณสมบัติต้านแอมีลอยด์ (amyloid) หรือคราบพลัคโปรตีน ไม่ให้ตกตะกอนในเซลล์เนื้อเยื่อจนเรื้อรังอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ เช่น ข้อต่อ สมอง ดังนั้นการกินขมิ้นวันละ 1 เหง้า ก็สามารถช่วยให้ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์ และโรคไขข้ออักเสบได้แล้ว

3.ใบเสจ บำรุงสมอง ด้วยสารอะซีติลโคลีน (Acetylcholine) ที่มีผลต่อการควบคุมสมองในส่วนการรับรู้ ซึ่งทำงานสัมพันธ์โดยตงกับระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (parasympathetic nerve) หรือระบบประสาทอัตโนมัติ หากกินเสจเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้สมองหลั่งสารอซีติลโคลีนเป็นปกติ สมองจึงสามารถจำอะไรได้แม่นยำขึ้น อาจตวงใบเสจ 1 ¼ ออนซ์ แช่ลงในน้ำร้อน 1 ถ้วยตวง ใช้จิบเป็นชาดื่มตลอดวัน

4.ใบไทม์ (Thyme) บำรุงไต เป็นสมุนไพรรสชาติเย็นคล้ายใบมินท์ มีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดไต และระบบทางเดินปัสสาวะ นิยมนำไปใช้ชงเป็นชาใบไทม์ โดยตวงใบไทม์ ½ ออนซ์ (หรือ 1 ช้อนโต๊ะ) ต้มในน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง ทิ้งให้ตกตะกอนประมาณ 15 นาที อาจเพิ่มความหวานโดยการเติมน้ำผึ้ง ใช้จิบได้ตลอดวัน ควรดื่มอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ถ้วย

5.ผักชีสด ขับโลหะหนัก ในหนังสือที่มีชื่อว่า Transdermal Magnesium Therapy ที่เขียนโดย Mark Sircus เขาแนะนำว่า กินใบผักชีสดเพียง 1 กำมือเป็นประจำทุกวัน ก็ช่วยให้ร่างกายกระตุ้นการขับปรอทออกจากเซลล์สมองและระบบประสาทส่วนกลางได้แล้ว เพราะถ้าร่างกายมีปรอทสะสมอยู่ในปริมาณมากจะส่งผลให้ปอดอักเสบ หายใจไม่สะดวก และร้ายแรงจนถึงขั้นสูญเสียการควบคุมการทรงตัว และการเคลื่อนไหวของแขน ขา ระบบประสาทรับความรู้สึกถูกทำลาย เช่น การได้ยินไม่ชัด มองไม่ชัด พูดไม่ชัด เป็นต้น

6 วิธีสุขใจให้อายุยืน

1.หัวเราะ นักหทัยวิทยาในสหรัฐเผยว่า การหัวเราะ 100-200 ครั้ง เทียบได้กับการเดินเร็ว 10 นาที และเป็นวิธีธรรมชาติช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคมากขึ้น

2.ชีวิตคู่ ต้องจัดการให้ลงตัว ผลการวิจัยของ Health Psychology Journal ในสหรัฐเผยว่า คู่ชายหญิงที่หย่าร้างกัน มีอายุขัยสั้นกว่ากำหนด เพราะชีวิตตึงเครียดด้วยปัญหาที่ต้องคิด ในทางกลับกัน คู่ชายหญิงที่มีกิจกรรมบนเตียงบ่อยครั้งมีอายุยืนกว่า เพราะการมีเซ็กส์อย่างสม่ำเสมอช่วยคืนอายุให้ดูเด็กลงถึง 7 ปี

3.ธรรมะ ธรรมโมเข้าไว้ ผลการวิจัยของ International Journal for Psychiatry and Medicine เผยว่าความเครียด และอารมณ์ขุ่นมัวคือ ต้นเหตุให้เจ็บป่วย และร่างกายสามารถขจัดมันออกไปได้ด้วยพลังของจิตใจที่สงบ ซึ่งเราสามารถฝึกจิตให้แข็งแรงได้ด้วย การเข้าโบสถ์ เข้าวัดฟังธรรม และการทำบุญ

4.เข้าสมาคม การเข้าร่วมสมาคมกีฬา หรือการเข้าสมาคมในองค์กรช่วยเหลือต่าง ๆ นับเป็นสิ่งที่ดีต่อผู้สูงอายุ ผลการวิจัยของ Harvard University เผยว่า วิธีเหล่านี้จะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกตัวเองมีค่า และรู้สึกสนุกกับการใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายมากขึ้น

5.อยู่บ้าน ไม่ต้องพูดถึง “งาน” ผลการวิจัยของ Johns Hopkins University เผยว่า ผู้ที่ชอบเก็บงานกลับไปทำที่บ้าน เสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ง่ายกว่า 20 เท่าของผู้ที่ไม่เก็บงานกลับไปทำที่บ้าน เนื่องจากเป็นการสะสมความเครียดให้ตัวเองโดยไม่รู้ตัว ภูมิคุ้มกันในร่างกายจึงลดต่ำลงเรื่อย ๆ ผลที่ได้คือ แก่ก่อนวัยอันควร

6.เลี้ยงสัตว์ ผลการวิจัยของ University of Cambridge เผยว่า สัตว์เลี้ยงทำให้คนมองโลกในแง่ดี และมีสุขภาพจิตที่ดีด้วย คอรบครัวที่เลี้ยงสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสุนัข หรือแมวจะมีความเครียดน้อยกว่าครอบครัวที่ไม่เลี้ยงสัตว์อะไรเลย อีกทั้งยังมีอัตราการเจ็บป่วยจนต้องไปพบแพทย์น้อยครั้งกว่าด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สุขกายสบายใจ
ที่มา http://health.kapook.com/view38185.html

Share

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.