Category Archives: สุขภาพ

กินเนื้อสัตว์ให้น้อยลงลดปัญหาโลกร้อน

นักวิจัยเมืองผู้ดีแนะประชากรโลกกินเนื้อสัต ว์ให้น้อยลง เพื่อลดการปศุสัตว์อันเป็นต้นกำเนิดของก๊าซมีเทน สาเหตุทำให้เกิดภาวะโลกร้อน แถมยังดีต่อสุขภาพ ชี้คนในประเทศพัฒนาแล้ว กินเนื้อคนละกว่า 2 ขีดต่อวัน

วารสารด้านการแพทย์แลนเซท (The Lancet) ตีพิมพ์ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ นำเสนอบทวิจัยแง่มุมใหม่ที่อาจปรับเปลี่ยนนิสัยการกินของผู้อ่านได้ โ ดยเชิญชวนให้ผู้คนทั่วไปลดปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์ลงอย่างน้อย 10% อาทิ อาหารจำพวกสเต็กและแฮมเบอร์เกอร์ จุดประสงค์เพื่อลดการทำฟาร์มปศุสัตว์ ซึ่งเป็นตัวการหนึ่งของการผลิตก๊าซมีเทน สาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน

เ รากำลังอยู่ในจุดวิกฤติ หากผู้คนรู้ว่าการบริโภคเนื้อจำนวนมากของเขามีผลต่อการเกิดภัยพิบัติตามมา เขาก็อาจจะคิดอีกรอบในการบริโภคเบอร์เกอร์สักชิ้นหนึ่ง” เกรี บริวสเตอร์ (Geri Brewster) นักโภชนาการจาก รพ.นอร์ธเทิร์น เวสต์เชสเตอร์ นิวยอร์ก (Northern Westchester Hospital) สหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานวิจัยกล่าว

อย่างไรก็ดี หลายคนคงคิดว่าวิธีนี้อาจไม่ใช่หนทางที่เหมาะสมนัก โดยงานวิจัยได้เสนอเพิ่มว่า วิธีอื่นๆ ที่อาจเลือกใช้ได้เช่น การปรับปรุงคุณภาพฟาร์มปศุสัตว์ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมา ซึ่งคงยากเพราะแค่มื้อเย็นเพียงมื้อเดียว ก็ต้องเป็นสาเหตุให้เกิดก๊าซเรือนกระจกไปเกือบ 1 ใน 4 ของทั้งโลกแล้ว

การจำกัดอาหารเนื้อสัตว์ลงเป็นเพียงหนทางเดียวที่ช่วยได้” ดร.จอห์น พาวส์ (John Powles) ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge University) หนึ่งในนักวิจัยกล่าว โดยเขายังเผยถึงความเหลื่อมล้ำของการบริโภคเนื้อสัตว์ด้วยว่า ในประเทศพัฒนาแล้ว แต่ละคนจะกินเนื้อสัตว์ 224 กรัมต่อคนต่อวัน ขณะที่คนแอฟริกันกินเนื้อสัตว์เพียง วันละ 31 กรัมเท่านั้น

อย่างไรก็ดี งานวิจัยก็ยังพบว่าแนวโน้มการบริโภคเนื้อสัตว์ของประชากรโลกในปัจจุบันเพิ่ม สูงขึ้นเรื่อยๆ นำไปสู่ปริมาณก๊าซมีเทนและไนตรัสออกไซด์ ที่จะทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

ย กตัวอย่างประเทศจีนเพียงประเทศเดียวที่มีความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์เพิ่มข ึ้นถึง 2 เท่าในเวลา 1 ทศวรรษ ซึ่งหากจะป้องกันไม่ให้เกิดภาวะโลกร้อนแล้ว ปริมาณเนื้อสัตว์ที่ควรบริโภคเพียง 90 กรัมต่อคนต่อวันก็พอแล้ว

ทั้งนี้ พาวส์ ยังบอกด้วยว่า นอกจากจะช่วยลดปัญหาโลกร้อนแล้ว การบริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลงยังเป็นมาตรการรักษาสุขภาพชั้นเยี่ยมด้วย อาทิ โรคหัวใจ อีกทั้งมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งประมาณการว่า หากลดการบริโภคเนื้อแดงลงทุกๆ 100 กรัมจะลดอัตราเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ลง 1 ใน 3 อีกทั้งคนในปัจจุบันก็ยังบริโภคโปรตีนมากเกินจำเป็นอยู่แล้ว อันจะไปสู่โรคอ้วนตามมาอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ ดร.มาเรีย ไนรา (Maria Neira) ผอ.แผนกสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ง านวิจัยชิ้นนี้น่าสนใจ และจะต้องตรวจสอบให้ได้ว่าการลดบริโภคเนื้อสัตว์จะเป็นหนึ่งหนทางสำคัญที่ช่ วยแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้จริง อีกทั้งหากจะเผยแพร่ให้สาธารณชนลดการบริโภคเนื้อสัตว์คงต้องอาศัยเวลานานนับ ศตวรรษ

Share

5 วิธีทำให้สมองฟิต ความคิดปิ๊ง…

คุณเคยมีอาการอย่างนี้บ้างมั้ย…

จับจ่ายไม่ได้ เพราะลืมกระดาษโน๊ตจดรายการของที่ต้องซื้อไว้ที่บ้าน
พระเอกหนังเรื่องที่ดูเมื่อวานชื่ออะไรน้า
จอดรถไว้ชั้นไหนของห้างนะ

อย่า! อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าคุณเริ่มแก่ สมองเริ่มเสื่อมแล้ว
มีวิธีฟิตสมองอย่างง่ายๆ ที่คุณทำได้ในชีวิตประจำวันมาฝากกัน จากหนังสือ “สมองฟิต ความคิดปิ๊ง”

ก่อนฟิตสมอง คุณรู้มั้ยว่า
พฤติกรรมซ้ำๆ ทำให้สมองฝ่อ
ใ นโลกที่เราคาดเดาเกือบทุกอย่างได้ล่วงหน้า กิจวัตรส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมจากจิตใต้สำนึกที่เรากระทำโดยใช้พลังจากสมองน้อ ยมาก ทำให้ไม่ค่อยมีการเชื่อมโยงระหว่างเซลล์ประสาทในสมองชั้นนอก สมองจึงไม่ค่อยได้ออกกำลัง
ถ้าคุณขับรถหรือนั่งรถไปทำงานโดยใช้เส้นทางเด ิมทุกวัน สมองคุณก็จะใช้ประสาทส่วนเดิมทุกวันเช่นกัน การใช้ประสาทเฉพาะส่วนนั้นๆ เป็นประจำทำให้เซลล์ส่วนนั้นแข็งแรง แต่ขณะเดียวกันประสาทส่วนอื่นๆกลับอ่อนแอเพราะถูกละเลย ผลดีก็คือ คุณเริ่มช่ำชองกับเส้นทางจาก ก ไป ข แต่ผลเสียคือ สุขภาพสมอง เพราะสมองพลาดโอกาสที่จะได้รับการกระตุ้นด้วยทัศนียภาพใหม่ๆ กลิ่นใหม่ๆ หรือเสียงใหม่ๆ ซึ่งเป็นความแปลกและหลากหลายที่จะช่วยให้เซลล์ประสาทหลายส่วนได้มีกิจกรรมออ กกำลัง
ถ้าสมองได้รับสิ่งใหม่ ส่วนของสมองชั้นนอกหลายส่วนจะมีกิจกรรมมากขึ้นและหลากหลายขึ้น และเกิดการเชื่อมโยงเซลล์ประสาทสมองส่วนต่างๆในรูปแบบใหม่ ส่งผลให้มีการหลั่งสาร นิวโรโทรฟินส์ หรืออาหารสมองมากขึ้น เซลล์สมองจึงแข็งแรงขึ้น

5 วิธีฟิตสมองในตอนเช้า
1. หลับตาอาบน้ำ เปิดก็อกน้ำ ปรับความแรงหรืออุณหภูมิของน้ำโดยใช้ประสาทสัมผัสและความรู้สึก (อย่าลืมฝึกวิธีปรับอุณหภูมิให้แม่นก่อนลงมือเพื่อป้องกันน้ำร้อนลวกตัว) หลับตาใช้มือสัมผัสหาอุปกรณ์อาบน้ำ จากนั้นจึงล้างหน้า อาบน้ำหรือโกนหนวด

2. เกมสลับมือ ขยับสมอง ฝึกใช้มือข้างที่คุณไม่ถนัดแปลงฟัน หมุนฝาหลอดยาสีฟันและป้ายยาสีฟันบนแปรง อาจใช้วิธีนี้กับกิจกรรมยามเช้าอื่นๆ …การฝึกลักษณะนี้เป็นการกระตุ้นสมองส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ให้เริ่มสั่งการเพื่อปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ที่สมองซีกนี้ไม่ค่อยมีส่วนร่วม มีการวิจัยพบว่าการฝึกเช่นนี้ส่งผลให้วงจรและเครือข่ายสมองในส่วนเยื่อหุ้มส มองคอร์แทกซ์ที่ทำหน้าที่ควบคุม และรับส่งคำสั่งจากมือ มีการขยายตัวอย่างมากและในอัตราที่รวดเร็ว หรืออาจลองทำสิ่งต่างๆด้วยมือข้างเดียว ก็ได้

3. อยู่ในโลกไร้เสียง ปิดหูด้วยการใส่หูฟังขณะรับประทานอาหารกับครอบครัวเพื่อสัมผัสโลกเงียบ…คน ใกล้ตัวคงเคยบ่นว่าคุณฟังสิ่งที่เขาพูดเพียงครึ่งเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่มักเกิดขึ้นตอนยุ่งอยู่ ลองฝึกตัวเองด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณบังคับตัวเองให้ใช้ตัวช่วยอื่นในการทำกิจ กรรม เช่น รู้ว่าขนมปังปิ้งที่อยู่ในเครื่องปิ้งได้ที่แล้วโดยไม่ต้องพึ่งเสียง

4. เช้าวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ลองเลือกกิจกรรมต่อไปนี้หนึ่งหรือสองข้อ แต่ไม่ควรทำหมดทุกข้อในเช้าวันเดียวกัน
• สลับลำดับกิจวัตรตอนเช้า เช่น ถ้าคุณเคยแต่งตัวก่อนกินข้าว ลองเปลี่ยนมากินข้าวก่อนแต่งตัว
• ถ้าคุณเคยรับประทานกาแฟกับขนมปังทุกเช้า ลองเป็นข้าวโอ๊ตและชาสุขภาพ หรืออาหารอื่นบ้าง
• เปลี่ยนเสียงนาฬิกาปลุก เปลี่ยนรายการวิทยุ หรือทีวีไปเป็นรายการที่คุณไม่เคยฟัง รายการเด็กเป็นตัวอย่างที่ดีในการกระตุ้นสมองให้สนใจในเรื่องที่คุณเคยมองข้ าม
• เปลี่ยนเส้นทางที่จะเดินทางไปทำงาน
จากการศึกษาภาพถ่ายของสมอง กิจกรรมใหม่ๆจะกระตุ้นเซลล์ประสาทที่กินพื้นที่สมองชั้นนอกในบริเวณกว้าง วิธีเติมกิจกรรมใหม่นี้จะให้ผลลดลงเมื่อกิจกรรมนั้นกลายเป็นสิ่งที่ทำเป็นกิ จวัตรหรือเป็นอัตโนมัติ เนื่องจากสมองต้องใช้พลังในการทำสิ่งใหม่ๆ มากกว่าต่อนทำกิจกรรมที่ทำจนชินแล้ว

5. เซ็กซ์ สุดยอดกิจกรรมออกกำลังสมอง ความตื่นเต้นระทึกใจจากกิจกรรมแปลกใหม่ เป็นหัวใจหลักของการเร้าอารมณ์รักโดยเฉพาะในคู่สมรสที่แต่งงานมานาน เพราะช่วยให้คู่รักพบกับความท้าทายและตื่นเต้นจากประสบการณ์ทางเพศแบบใหม่ ใช้จินตนาการและดึงอารมณ์ความรู้สึกทุกส่วนออกมาปรับใช้ เช่น สวมชุดนอนผ้าไหมที่ให้ความรู้สึกสัมผัสที่เรียบลื่น โรยกลีบกุหลาบหอมกรุ่นบนเตียง นวดสัมผัสกันและกันด้วยน้ำมันหอมระเหย หรือสร้างบรรยากาศด้วยเสียงเพลงโรแมนติค
เซ็กซ์ที่ดีนับเป็นการออกกำลังสมองที่ดี ฟังดูอาจเป็นการสรรเสริญเยินยอกิจกรรมบนเตียง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นการกล่าวเกินจริง เพราะในกิจกรรมร่วมรักมีการใช้ประสาทสัมผัสทุกอย่างที่ก่อให้เกิดการกระตุ้น ในวงจรสมองทุกส่วนรวมทั้งวงจรที่รับรู้เรื่องอารมณ์

เคล็ดลับดีๆอีกมากกับการบริหารสมอง ติดตามรายละเอียดได้จากหนังสือ สมองฟิต ความคิดปิ๊ง
หนังสือแปลจากเรื่อง Keep Your Brain Alive โดย Lawrence C.Katz, Ph.D & Manning Rubin

Credit: http://www.thaireaderclub.com/article.php?c_no=916&f_group=life

Share

สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อต้องนอนดึก…

ใครที่ชอบนอนดึก ๆ อาจจะทำให้เสียสุขภาพได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาฝากกัน…

การพักผ่อนควรเข้านอนเวลา 3 ทุ่ม เ นื่องจากร่างกายต้องการเวลาในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอขับของเสียตามอวัยวะต่ าง ๆ ย่อยอาหารให้หมด และถ้ากินมื้อหนักในตอนกลางคืน แถมนอนดึกอีก รับรองว่าอ้วนแน่นอน เพราะไขมันเผาผลาญไม่หมดเลยทำให้เกิดการสะสมของไขมัน

แต่ถ้านอนดึกเลี่ยงไม่ได้ เพราะต้องทำงานหรือติดงานอะไรก็ตาม ควรปฏิบัติดังนี้

1. งดเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ เพราะย่อยยากลำไส้ต้องทำงานหนัก

2. ถ้าหากอยากกินเนื้อสัตว์ ก็ควรช่วยลำไส้ด้วยการเคี้ยวให้ละเอียด ยิ่งเคี้ยวละเอียดมากเท่าไหร่ยิ่งดี จะได้แบ่งเบาภาระการทำงานของลำไส้

3. ดื่มน้ำขิง ผสม น้ำผึ้ง อุ่น ๆ หรือ น้ำอุ่นธรรมดา + น้ำผึ้ง หรือถ้าไม่มีอะไรเลย น้ำอุ่นธรรมดา สัก 1 แก้วก็ได้

4. เวลานอน ควรทำให้ช่วงท้องกับฝ่าเท้าอุ่น โดยการห่มผ้า

5. มื้อดึก ควรเป็นมื้อเบา ๆ อย่างเช่น ผัก ผลไม้ นม ไข่ เนื้อปลา จะดีกว่า

6. ควรหลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำอัดลม เพราะจะเพิ่มภาระทำให้ระบบภายในร่างกาย ร่างกายต้องความร้อนเพราะช่วยในการย่อยอาหาร หากดื่มแต่น้ำเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหาร จะทำให้ร่างกายต้องพยายามปรับอุณหภูมิ ให้อุ่นเหมาะสมก่อน แล้วจึงนำไปใช้

อย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพกัน ด้วยการไม่นอนดึกมากจนเกินไป เพื่อสุขภาพที่ดี


ข้อมูลจาก

เครดิต: http://www.dek-d.com/board/view.php?id=915598
เครดิต: http://woratana.exteen.com/20070807/entry

Share