Category Archives: สุขภาพ

ลดอาการโศกเศร้าด้วยวิธีธรรมชาติ 5 ประการ

ความโศกเศร้าอันเนื่องมาจาก สาเหตุแห่งความสูญเสีย และความผิดหวัง เป็นช่วงอารมณ์ที่มีระดับแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์และความรุนแรงของปัญหาหรือสิ่งที่ได้ประสบมา คงจะดีไม่น้อยถ้าอาการดังกล่าวหายได้เร็วขึ้น ซึ่งตัวคุณเองก็ต้องพยายามปรับจิตใจให้เข้าสู่โลกแห่งความจริงและอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ แต่ทั้งนี้ธรรมชาติได้มีส่วนช่วยให้คุณบรรเทาอาการโศกเศร้าได้เช่นกัน

1.จินตภาพบำบัด
เมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจมปรักอยู่กับสาเหตุของความโศกเศร้า คุณควรให้เวลากับตัวเองโดยการอยู่คนเดียวเงียบๆ โดยการนั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจ ทำจิตใจให้สงบแล้วนึกถึงมโนภาพเชิงบวก ที่ทำให้คุณมีความสุข และให้คิดว่าคุณได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวนั้นๆ แต่ไม่ลืมการกำหนดลมหายใจเข้า-ออกอยู่เสมอ และพยายามเข้าใจกับปัญหาหรือสาเหตุของความโศกเศร้าให้ได้

2.การออกกำลังกาย
ออกกำลังกายแบบไทเก๊ก ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวช้าๆ เพื่อให้เกิดสมาธิ ช่วยให้รู้สึกแยกแยะอารมณ์ และทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ หรือการฝึกโยคะ ซึ่งการฝึกนี้จะช่วยให้คุณเปิดใจยอมรับความรู้สึกเจ็บปวดจากการสูญเสียได้ เพราะการออกกำลังกายจะกระตุ้นการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ออกมาจะช่วยให้คุณมีความสุขโดยที่คุณอาจไม่รู้ตัวแล้วเผลอยิ้มออกมาก็เป็นได้ค่ะ

3.นวดและบำบัดด้วยน้ำมันหอม
การนวดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้คุณผ่อนคลายความโศกเศร้า เป็นการปลดปล่อยอารมณ์ที่รู้สึกไม่ดีออกมา ทำให้เรารูสึกสบายตัวสบายใจมากขึ้น และจะให้เกิดผลดียิ่งขึ้นก็ต้องผสมน้ำมันหอมลงไปขณะนวดด้วย เพราะน้ำมันหอมอย่าง น้ำมันลาเวนเดอร์ กระดังงา มะลิ กุหลาบ จะช่วยลดความกระสับกระส่ายอันเนื่องมาจากความโศกเศร้าได้เป็นอย่างดี

4.ผ่อนคลายอารมณ์
หาเวลาอยู่กับเพื่อน พูดคุยในเรื่องต่างๆ ทำกิจกรรมที่สนุกสนาน พยายามไม่นึกถึงเรื่องเก่าๆ แล้วบอกตัวเองเสมอว่า วันข้างหน้ายังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ต้องเจอ และในหนึ่งชีวิตนี้ยังต้องทำอะไรอีกมากมาย อย่ามามัวเสียเวลาไปกับสิ่งที่เป็นอดีต หรือเดินรับลม รับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าบ้าง ก็จะช่วยให้กระฉับกระเฉงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเลือกใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส ก็จะทำให้คุณดูสดชื่นขึ้นได้

5.รับประทานอาหาร เน้นวิตามินซีและโอเมก้า 3
ในผักผลไม้ที่มีวิตามินซี เช่น ส้ม สตรอเบอรี่ ฝรั่ง บร๊อคโคลี่ มะละกอ มีส่วนสำคัญที่ช่วยระงับความเครียดได้ เพราะเมื่อยามที่เราโศกเศร้า ร่างกายมักจะปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง ส่งผลให้ทั้งร่างกายและจิตใจเกิดความเครียด วิตามินจะเข้าไปช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น ส่วนโอเมก้า 3 ที่อยู่ในน้ำมันปลาของเนื้อปลาแซลมอนก็ยังช่วยระงับอาการซึมเศร้า โดยเฉพาะจากการทำงานได้ หรือพักซักนิด ผ่อนคลายซักหน่อยโดยการดิ่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของธัญพืชที่จะช่วยเติมพลังในวันที่เหนื่อยล้าของคุณค่ะ

เรื่อง ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ
จาก Ovaltine 5 Grains

Share

รอยยิ้ม-หัวเราะสร้างสุขภาพดีได้จริงหรือ?

คุณเคยสังเกตตัวเองหรือเปล่าว่า ยามที่คุณรู้สึกแย่ๆ เสียใจหรือจิตใจไม่อยู่ในภาวะที่พร้อมกับการทำงานหรือการปฏิบัติชีวิตประจำวัน คุณจะปฏิเสธสิ่งรื่นรมย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารหรือขนมที่ชื่นชอบ การทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ทำเป็นประจำ แม้กระทั่งยามนอนคุณก็จะนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายและว้าวุ่นอยู่ตลอดเวลา เพราะร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนซีโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เราอารมณ์ดีและสดใส ออกมาน้อยมาก คุณจึงมีอาการดังกล่าวค่ะ

เมื่อคุณเป็นเช่นนี้ ลองเดินไปที่กระจก พิจารณาหน้าตาตัวเอง แล้วคุณจะเห็นคนอีกคนที่สีหน้าไร้ซึ่งความสุข หน้าตาซูบเซียวไร้ชีวิตชีวา รอยยิ้มที่เคยปรากฏหายไป แต่ถ้าคุณสูดลมหายใจลึกๆ แล้วลองยิ้ม ยิ้มให้กับตัวเองสักครั้งในกระจก เมื่อคุณยิ้มกว้างๆ ร่างกายจะรู้สึกผ่อนคลายและจะหลั่งสารเอนดอร์ฟินออกมา คุณจะสัมผัสถึงพลังแห่งความสุขเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในจิตใจได้ค่ะ

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะมีประโยชน์มากมาย โดยที่คุณมักจะละเลยการยิ้มและการผ่อนคลายอารมณ์ด้วยการหัวเราะไป เพราะฉะนั้นไปพบกับประโยชน์ของรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกันดีกว่าค่ะว่า จะสามารถสร้างสุขภาพที่ดีให้คุณได้อย่างไรบ้าง

ประโยชน์ของการยิ้มและหัวเราะ
เมื่อเรายิ้มหรือหัวเราะ จะส่งผลต่ออวัยวะทุกส่วนตั้งแต่หัวใจ ปอด กล้ามเนื้อ สมองไปจนจนถึงระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งมีส่วนทำให้เพิ่มระดับความเข้มข้นของแอนตี้บอดี้ ที่เป็นภูมิคุ้มกันหมุนเวียนในกระแสเลือด และเป็นการเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นเสมือนสิ่งที่ดักจับสิ่งแปลกปลอมที่หลุดเข้ามาในร่างกาย และในขณะที่หัวเราะร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟินออกมา หัวใจของคุณจะเต้นเร็วกว่าปกติ ทำให้มีการสูบฉีดโลหิต หน้าคุณก็จะแดงเวลาที่คุณหัวเราะ ซึ่งก็เปรียบเสมือนเป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง โดยที่คุณไม่ต้องออกแรง และเมื่อคุณหยุดหัวเราะ ร่างกายจะค่อยๆ คืนสู่ภาวะปกติ จนกระทั่งรู้สึกผ่อนคลาย

การยิ้มและหัวเราะ ยังช่วยให้ปอดแข็งแรง ไปช่วยทำความสะอาดลม ลดอาการท้องผูก ท้องอืด อันเนื่องมาจากความเครียด เนื่องจากเวลาที่คุณเครียด กล้ามเนื้อทุกส่วนก็จะเกิดอาการตึง พอคุณหัวเราะกล้ามเนื้อก็จะคลายความตึง เกิดสมดุลใหม่ สร้างให้คุณมีความสุข ทั้งยังช่วยในเรื่องของการไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้น ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น และถ้าหัวเราะโดยที่ไม่ได้ฝืนก็ยังจะทำให้ร่างกายปลอดโปร่งเบาสบายขึ้น อาการคัดจมูก ปวดเมื่อยก็จะหายไป ความสดชื่นก็จะเข้ามาแทนที่

นอกจากจะทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีแล้ว การยิ้มและหัวเราะยังช่วยเรื่องของจิตใจ สภาวะทางอารมณ์และกระบวนการคิดของสมองอีกด้วย เพราะเมื่อคุณยิ้มหรือหัวเราะ ร่างกายผ่อนคลาย จิตใจก็จะผ่อนคลายตาม สมองก็จะได้รับออกซิเจนเต็มที่ กระบวนการทางความคิดก็จะเข้าที่เข้าทาง ทำให้คุณมีความคิดที่จะแก้ไขปัญหา หรือเกิดมุมมองที่ดีใหม่ๆ ให้กับชีวิตได้มากขึ้น ก่อให้เกิดพลังที่จะสู้กับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต และยังสามารถส่งกระจายความสุขให้กับผู้พบเห็นได้อีกด้วย หมองคล้ำ เหมือนอย่างคนเก่าที่ส่องกระจกแล้วพบว่า ตัวเองกลายเป็นอีกคนค่ะ

แต่ถ้าคุณยังยิ้มไม่ออก ลองบอกตัวเองสิคะว่า ยิ้มในยามที่ผิดหวัง เป็นสิ่งที่ท้าทายกว่าการปล่อยให้ร้องไห้ยามเสียใจค่ะ หรือลองมองไปที่เด็กเล็กยามที่พวกเขายิ้มหัวเราะดูสิคะ แล้วคุณจะรู้ว่าโลกทั้งโลกนั้นสดใส และมีอะไรที่ให้คุณทำอีกมากมาย เพียงแค่คุณยิ้มสุขภาพกายและใจของคุณก็จะแข็งแรงอย่างแน่นอนค่ะ นอกจากการเพิ่มพลังใจแล้ว ก็เพิ่มพลังกายด้วยการจิบเครื่องดื่มธัญพืชร้อนๆ เพื่อช่วยให้คุณสดใส แข็งแรงค่ะ

Tip
หัวเราะเพียง 10 วินาที = การออกกำลังกายบนเครื่องกรรเชียงถึง 3 นาที
หัวเราะต่อเนื่อง 5 นาที = การออกกำลังแบบแอโรบิก 30 นาที

เรื่อง ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ
จาก Ovaltine 5 Grains

Share

รักษาสมดุลพลังชีวิตกับการออกกำลังกายแบบ “ไทชิ”

เมื่อพูดถึงการออกกำลังกาย ทุกคนจะชอบนึกถึงการออกกำลังที่เรียกเหงื่อ ยิ่งเหงื่อออกมายิ่งเท่ากับว่าเราออกกำลังกายได้มาก ซึ่งก็ไม่จริงเสมอไปนะคะ เพราะมีการออกกำลังกายอีกหลายรูปแบบที่ไม่ต้องเสียเหงื่อแต่ก็มีการเผาพลาญพลังงานที่เหลือกินเหลือใช้ได้เช่นกัน อย่าง การออกกำลังกายแบบไทชิ นั่นเองค่ะ

ไทชิ เป็นการออกกำลังกายอย่างนุ่มนวล และเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของมวยจีน ที่เน้นการการผ่อนคลายและการกำหนดลมหายใจเข้าลึก-ออกยาว มากกว่าการเคลื่อนไหวร่างกายภายนอกที่เน้นความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออย่างเดียวเท่านั้น เพราะการออกกำลังแบบไทชิ จะเริ่มต้นการปฏิบัติตนด้วยการควบคุมจิตใจ ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย เพื่อให้เกิดสมาธิที่ยาวขึ้น ส่งผลให้เกิดพลังในร่างกาย ที่แปรเปลี่ยนไปช่วยอวัยวะต่างๆ ให้ไม่เสื่อมเร็วและแข็งแรง ยามที่คุณเริ่มมีอายุย่างเข้าสู่วัยชรา

การออกกำลังกายในลักษณะการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ นี้ จะทำให้การหมุนเวียนของโลหิตและการหายใจเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งยังช่วยเพิ่มปริมาณเส้นเลือดฝอย และมีส่าวนช่วยในการเติมออกซิเจนที่เซลหัวใจ หัวใจก็ทำงานได้ปกติ ไม่เกิดอาการตีบตันหรือหัวใจวาย

การกำหนดการหายใจให้เข้าลึกออกยาว ผ่านมาจากทางจมูก ซึ่งการทำลักษณะนี้จะเป็นการบริหารกระบังลม ที่ให้ผลเหมือนเป็นการนวดตับ ช่วยขับเลือดออกจากตับและช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้น ปอดและหัวใจก็พลอยแข็งแรงไปด้วย มีความกระชุ่มกระชวยมากขึ้น ความสุขก็บังเกิดขึ้น และช่วยลดความดันโลหิตได้ อายุก็ยืนยาวแบบสุขภาพดีค่ะ

ท่าทางและสรีระในการออกกำลังกาย “ไทชิ” ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้เกิดความสมดุลของร่างกาย อย่าง ปากปิดสนิท เพื่อบังคับให้หายใจทางจมูก ลิ้นก็จะแตะเพดานปาก จะทำให้ต่อมน้ำลายหลั่งต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดความชุ่มคอและสามารถช่วยย่อยอาหารได้ ส่วนของลูกตา ก็ไม่ต้องฝืนเกร็ง จ้องมองบางสิ่งนานๆ กล้ามเนื้อลูกตาก็จะได้รับการพักผ่อน

ส่วนไหล่ก็จะอยู่ในท่าลดลงและอกก็จะผ่อน ซึ่งอยู่ในท่าธรรมชาติ จะช่วยกระบังลมดีขึ้น ช่วยให้หายใจลึกถึงท้อง ช่วยการย่อยอาหาร และการขับถ่าย ทั้งยังช่วยให้ไตและลำไส้แข็งแรง อันเนื่องมาการการผ่อนคลายเอวและกล้ามเนื้อเอว ที่มีการบิดไปทางขวา-ซ้ายอย่างช้า แขนวาดออกไปในอากาศอย่างช้าๆ ขาก้าวเดินอย่างมีสติและมีการกำหนดลมหายใจให้เกิดความสมดุล ก็จะเป็นผลดีต่อเส้นเอ็นและกระดูกได้เป็นอย่างดีค่ะ

นอกจากนี้ยังเป็นการผ่อนคลายภาวะทางอารมณ์ ให้คุณรู้สึกผ่อนคลายความเครียด ความกังวลที่เกิดในจิตใจ หรือความรู้สึกในแง่ลบต่างๆ จะแปรเปลี่ยนมาเป็นพลังความสุขเล็กๆ ได้ค่ะ ทั้งยังสามารถผ่อนคลายความเมื่อยล้าทางร่างกายได้ อาทิ คลายปวดเหมื่อย เพราะร่างกายไม่หักโหมสำหรับการออกกำลังกายเกินไป และเมื่อร่างกายได้เคลื่อนไหวแบบเบาๆ จิตใจก็จะเบาตามภาวะทางร่างกาย จึงเกิดพลังแห่งความสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจ แต่เมื่อไรก็ตาม ที่ความสมดุลนี้ได้แปรเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงหรือฝืนธรรมชาติมากเกินไป ก็อาจเกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่ายเช่นกันค่ะ

อาจเรียกได้ว่า ไทชิ เป็นการออกกำลังกาย ซึ่งเหมาะกับคนอ้วน ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ รวมทั้งผู้สูงอายุ แต่ทั้งนี้คนทุกเพศทุกวัยก็สามารถมีสุขภาพดีด้วยการออกกำลังกายได้เช่นกัน ซึ่งก็ต้องดูความเหมาะสมต่อสภาพร่างกายของตัวคุณเองว่า เหมาะกับการออกกำลังกายแบบไหนด้วยนะคะ และที่สำคัญหลังการออกกำลังกายควรทิ้งเวลาไว้ 1 ชั่วโมงจึงจะสามารถดื่มหรือรับประทานอาหารได้ ซึ่งอาจเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มเบาๆ แต่มากคุณค่าอย่างเครื่องดื่มธัญพืชที่รวมคุณค่าธัญหาร 5 ประการไว้ด้วยกันก็ดีนะคะ

Tip
สถานที่ซึ่งเหมาะกับการออกกำลังกายแบบไทชิคือ สวนสาธารณะที่มีต้นไม้ให้ความร่มรื่น ออกซิเจนที่ได้ก็จะบริสุทธิ์ หรือบ้านที่มีเนื้อที่กว้าง ปลอดโปร่ง อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก และออกกำลังกายช่วงเช้าจะเกิดผลดีที่สุดค่ะ

เรื่อง ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ
จาก Ovaltine 5 Grains

Share