เป็นบทความข่าวสดๆ ร้อนๆ จาก Manager Metro Life ที่อ่านแล้วจะทำให้เรารู้ถึงที่มาและวิธีการผ่อนคลายความเครียดได้ดีเลยหละครับ ลองอ่านดูนะครับ
——————————————————-
ว่ากันว่า เสียงหัวเราะคือยาวิเศษที่สุดของโลกในยุคที่รายล้อมด้วยความเครียด เชื่อหรือไม่ว่า เสียงหัวเราะ จะเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เช่น ผลิตเซลล์ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับโรคมะเร็ง และส่งผลดีต่อระบบทางเดินหายใจ การไหลเวียนของโลหิต และระบบต่อมไร้ท่อ กระตุ้นการทำงานของหัวใจ การหัวเราะที่ต่อเนื่องนาน 15-20 นาที เท่ากับได้ออกกำลังหัวใจถึง 5 นาที อีกทั้งยังช่วยในการบริหารปอด กำบังลมเคลื่อนให้ไหวดีขึ้น ในหลายประเทศอย่าง อเมริกา แคนาดา อังกฤษ การหัวเราะบำบัดกำลังเข้ามามีบทบาทในการบำบัดคนไข้เพื่อทดแทนการใช้ยา เพราะอารมณ์ขันให้ให้ผลเช่นเดียวกับการออกกำลังกายเช่นกัน Metro Life ชักชวน มาร่วมกับ “หัวเราะ” กับหลากเรื่องราวของ “ตลก” เพื่อให้เกิดเสียงหัวเราะกับอารมณ์ขัน… หัวเราะยับยั้งมะเร็ง ได้ !? นักวิจัยนอร์เวย์พบในการศึกษาว่า เสียงหัวเราะบันดาลให้อายุยืน นักวิจัยจากโรงเรียน แพทย์ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอร์เวย์ ได้ตามติดชาวนอร์เวย์ประมาณ 54,000 คน อย่างต่อเนื่องอยู่นานถึง 7 ปี ปรากฏว่า คนที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวที่มีอารมณ์ขัน จะอายุยืนกว่าคนที่มองไม่เห็นความขบขันในชีวิตเลย และในหมู่คนไข้ โรคมะเร็งก็เช่นกัน คนไข้รายที่รวยอารมณ์ขัน จะสามารถอยู่ได้ยืนยาวกว่าเพื่อนคนไข้ด้วยกันที่ไม่มีอารมณ์ขันถึง 7 ปี (ก็มี) อีกทั้งยังพบว่า คนที่ตรวจพบโรคมะเร็งในระยะต้น อารมณ์ขันสามารถลดโอกาสการเสียชีวิตลงได้มากถึง 70% เมื่อเทียบกับวัยผู้ใหญ่เต็มตัวที่ขาดอารมณ์ขัน ทายนิสัยจากเสียงหัวเราะ หัวเราะเสียงดังลั่น หัวเราะเสียงเบา หัวเราะเสียงสูง หัวเราะเสียงหนักแน่นสม่ำเสมอ หัวเราะเสียงต่ำ หัวเราะเสียงแห้ง หัวเราะแล้วน้ำตาไหล หัวเราะหลายเสียง ข้อมูลจาก http://rahu.moohin.com/hihi.shtml ************ เดอะดวง การ์ตูนตลกร้าย |
||||
“ผมชอบการ์ตูนมาตั้งแต่เด็กๆ และก็เริ่มขีดเขียนตั้งแต่ 3 ขวบ จนวันนี้ ก็ 7 ปีแล้วครับที่อยู่ในวงการการ์ตูน และวาดการ์ตูนเป็นอาชีพ” เดอะดวง นักวาดการ์ตูนเลือดใหม่ “แนวตลกร้าย” ที่น่าจับตาคนหนึ่งกล่าวกับ Metro Life เดอะดวง หรือ วีระชัย ดวงเพลา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 เอกการออกแบบนิเทศศิลป์ ม.ราชภัฏสวนสุนันทา บอกว่า การ์ตูนเรื่องแรกเล่มแรกของเขา วาดให้เพื่อนๆ เมื่อตอน ม.1 ครับ มีประมาณ 30 หน้า และเสียงสะท้อนกลับในหมู่เพื่อนค่อนข้างดี และเห็นแววที่ฉายชัด ตั้งแต่นั้น หลังจากวันนั้น พัฒนาการวาดการ์ตูนมาเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกว่าน่าจะลองเอางานไปเสนอสำนักพิมพ์ดู ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จไปเป็นนักเขียนประจำที่ “ตลาดตลก” “ผมวาดประจำที่ตลาดตลก 1 ปี พ่อ (นักวาดการ์ตูนเหมือนกัน) แนะนำว่าให้ลองส่งงานเข้าร่วมการประกวดที่ “สยามอินเตอร์คอมมิก” ที่สุดเรื่องสั้นชื่อ Shockolate แนวตลกร้ายก็ได้ตีพิมพ์งานแผง และไม่นานเขาก็ได้ไปวาดประจำอยู่ที่นั่น สำหรับเรื่องเนื้อหาแนวตลกร้ายเล่มแรกของเขา เดอะดวงบอกทริกตั้งแต่การตั้งชื่อว่าเป็นการล่อหลอกคนอ่าน |
||||
“หลายคนนึกว่าชื่อแบบนี้ต้องหวาน (หัวเราะ) แต่ข้างในจะเป็นเรื่องตลกร้าย เป็นเรื่องสั้นกว่า 10 เรื่อง แต่ธีมจะเป็นช็อกโกแลต ซึ่งจะเป็นมุมมองหลายๆ สไตล์ เป็นตลกร้ายคนละแบบ” เขาเล่ายิ้มพร้อมกับยกตัวอย่างเรื่องหนึ่ง ชื่อ “เตียง” เป็นตลกร้ายผสมหลอนๆ ที่เอามาจากชีวิตจริง “ผมเป็นคนกลัวใต้เตียงเพราะมันมืดมาก ทำให้เราคิดว่ามันมีอะไรหรือเปล่า เลยเอามาเขียนเป็นการ์ตูน เดินเรื่องด้วยเด็กขี้กลัวใต้เตียง อีกทั้งยังโดนเพื่อนคอยบิลด์ว่าที่โรงพยาบาลนี่มีผี และตัวเองปวดฉี่จึงกัดฟันลุกออกไปเข้าห้องน้ำ พอกลับเขาจึงลงไปนอนใต้เตียงเพื่อเป็นการขจัดความกลัว แต่ปรากฏว่าใต้เตียงกลับไม่มีอะไร แต่สรุปแล้วบนเตียงมีผีอยู่ คือเขาไปนอนทับที่ผี” สำหรับการคิดพล็อต เดอะดวงเผยว่า คิดจากเรื่องธรรมดาๆ ของคนทั่วๆไป หรือเป็นเหตุการณ์ที่กระทบจิตใจโดยตรง “ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากการอ่าน อินเทอร์เน็ต และการได้คุย มันทำให้ผมต้องคิดตลอดเวลา จะหยุดคิดได้ก็แต่ในเวลานอนเท่านั้น เพราะเนื้อเรื่องต้องไม่ซ้ำกัน” แนวทางตลกร้ายของเขาได้รับอิทธิพลมาจากงานของทิมเบอร์ตัน ผู้กำกับหนังชื่อดังเช่น ไนท์แมน, ชาร์ลี แอนเดอะช็อกโกแลต แฟก เตอรี และบิ๊กฟิช ส่วนคาแร็กเตอร์ของตัวการ์ตูนตลกร้ายของเขาจะอยู่ที่ตา จะซ้ำๆเหมือนมันอดนอน “ผมชอบแนวคิดและคาแร็กเตอร์ตัวละครของเขามาก คอนเซ็ปต์ของทิมรู้สึกว่าจะเป็นความสวยงามในความอัปลักษณ์ ผมก็นำตัวละครและเนื้อเรื่องมาประยุกต์ เป็นอะไรที่เข้าท่าจึงหยิบมาใช้ เป็นเรื่องง่ายๆ ที่สอนเด็กไปด้วยในตัว” “อย่างอ่านหัวเราะๆ อยู่ แต่จบอย่างสยองขวัญ ผมชอบที่มันดึงให้คนคิดอยู่ตลอดเวลา ถามว่าค่าตอบแทนดีไหม สำหรับผมก็ถือว่าดี แต่ไม่ดีมาก เรียกว่าพออยู่ได้ แต่ถ้าจะให้เป็นอาชีพหลัก เลี้ยงตัวได้ไหม มันตอบยาก แต่ถ้าถามว่าจะวาดการ์ตูนอีกนานไหมตอบได้เลยว่านาน ผมอยากทำให้มันเป็นอาชีพ และก็กำลังจะพัฒนาให้เป็นแอนิเมชันให้ได้ กำลังศึกษาอยู่ครับ” เดอะควงกล่าว ผลงานเดอะดวง หนังสือตลกร้ายชื่อ“ห้องเล็กๆ ของเครื่องเขียน” ของมูลนิธิเด็ก *********** บันลือสาส์น |
||||
เสียงหัวเราะรุ่นพ่อเมื่อวันวานคือ หนูจ๋า , เบบี้ เป็นหนังสือการ์ตูนไทยแท้เก่าแก่ที่สุด วันนี้ รุ่นลูก เสียงหัวเราะผ่านมากับหนังสือขายหัวเราะและการ์ตูนมหาสนุก ทั้งหมดคือ ธุรกิจในเครือบรรลือสาส์น วิธิต อุตสาหจิต วัย 52 ปี ลูกชายคนโตของ บันลือ เป็นหัวเรือใหญ่ธุรกิจในเครือบรรลือสาส์น คือผู้ก่อตั้งหนังสือขาย “หัวเราะ”จนโด่งดัง บนโลกจินตนาการเขามีเป้าหมาย และอยากเป็น “วอลท์ ดิสนีย์เมืองไทย” วิธิตจบการศึกษาด้านการถ่ายทำภาพยนตร์มาจากประเทศอังกฤษ เคยร่วมงานในคณะถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของฮอลลีวูดเรื่อง “เดียร์ฮันเตอร์” และเคยเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ไทยเรื่องดัง “ผีหัวขาด” (ประมาณปี 2521-2512)ของบริษัทศรีสยามภาพยนตร์ เมื่อ “ขายหัวเราะ” ประสบความสำเร็จเพียง 2 ปี วิธิตก็ปั้น“มหาสนุก” จับลูกค้าระดับกลุ่มครอบครัวมาสร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง จนมีผู้ตั้งฉายาให้เขาว่า “ราชาแห่งการ์ตูนไทย” ขายหัวเราะเล่มแรก เป็นไซส์ A4 (ราคา 5บาท) หลังจากนั้น 8 ปี ไซส์หนังสือจึงหดเท่าขนาดปัจจุบันที่เราเห็นๆ พร้อมกับอัปราคาขึ้นเป็น 12 และ 15 บาท ตามลำดับ “ตอนนี้มีผมกับคุณต่ายที่เด่นเรื่องแก๊ก, คุณนิค เด่นเรื่องลายเส้นและการหักมุม, คุณหมูถนัดเรื่องสั้นและตลกแนวเสียดสี ส่วนคุณเอ๊าะ เน้นแนววัยรุ่นและภูมิปัญญาแนวอีสาน คุณแฟนสนุกกับการล้อเลียน และคุณขวดมีความสามารถด้านดีไซน์” วิธิต บอกเล่ากับ Metro Life ถึงทีมงานที่ร่วมคลุกคลีตีโมงสร้างความสุขให้แก่ผู้อ่านทางบ้าน นอกจากนี้ เขายังมุ่งมั่นที่จะสร้างความสุขและเสียงหัวเราะของการ์ตูนไทยโกอินเตอร์ด้ว ยการเปิด บริษัท บรรลือ พับลิเคชั่นส์ จำกัด ทำหน้าที่สร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ ออกสู่ตลาดสากล ทั้งยังจัดตั้งหน่วยงานขึ้นอีกหลายหน่วยเพื่อดูแลเนื้อหาเฉพาะทาง อันได้แก่ |
||||
– นิว มีเดีย ผลิตผลงานหนังสือที่มีเนื้อหาสนุกสนาน รักโรแมนติกใส ๆ เหมาะสมกับวัยรุ่น – นาว มีเดีย ผลิตผลงานที่เนื้อหาความตลกสนุกสนาน ให้เสียงหัวเราะและความบันเทิง – น็อบ มีเดีย ผลิตผลงานที่มีเนื้อหาน่ารู้ทางวิทยาศาสตร์ และเรื่องราวลึกลับและแนตตี้ มีเดีย ดูแลการผลิตหนังสือสำหรับเด็กโดยเฉพาะ “ในยุคสมัยแห่งดิจิตอลเราไม่ได้ผลิตแค่หนังสือ แต่ยังได้ขยายอาณาจักรมหาสนุกออกไปสู่วงการแอนิเมชันด้วยการก่อตั้ง 2 บริษัท คือ บริษัท วิธิตา แอนิเมชั่น สร้างสรรค์คาแร็กเตอร์จากหนังสือการ์ตูนให้โลดแล่นในโลกไซเบอร์ และ บริษัท มาโชบิส ซึ่งเป็นผู้ดูแลธุรกิจลิขสิทธิ์ และทำการตลาดทั้งหมด ซึ่งนับเป็นการเสริมกำลัง ให้กลุ่มบริษัท บรรลือกรุ๊ป ให้แข็งแรงในทุกด้าน” วิธิต อุตสาหจิต กล่าว วินาทีจากนี้ไป เพื่อสร้างจินตนาการให้เกิดขึ้นและเป็นจริงดังคำกล่าวที่เขาอยากเป็น “วอลท์ ดิสนีย์เมืองไทย” ************** พิฆาตโรค ฆ่าความเครียด |
||||
แม้จะรู้ว่า เสียงหัวเราะมีประโยชน์ แต่พอเอาเข้าจริง น้อยคนที่จะรู้ว่า ควรหัวเราะอย่างไรให้ถูกวิธี เพราะเมื่อไหร่ที่คุณปล่งเสียงหัวเราะอย่างถูกหลัก มันจะมีประโยชน์อนันต์มหาศาล แต่หลายคนก็สงสัยว่ากับแค่การหัวเราะมันจะอะไรกันนักกันหนา “จริงๆ แล้วหัวเราะบำบัดต่างจากหัวเราะธรรมชาติมาก หัวเราะธรรมชาติมีผลข้างเคียงเยอะ เช่น หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง หัวเราะจนกามค้าง เป็นทฤษฎีผิดๆ เหมือนการหายใจ หรือการปิดปากหาว แต่การหัวเราะบำบัด มีสติเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นขั้นตอนจะช่วยบำบัดโรคได้” โครงการชมรมหัวเราะบำบัดเกิดขึ้นแบบไม่เป็นทางการ เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน แต่เป็นรูปร่างเมื่อ 3 ปีที่แล้ว “ตอนนั้นมีนิสิตฆ่าตัวตายทุกวัน เราก็มาคิดว่าจะช่วยอย่างไร ก็เลยมาช่วยเรื่องการจัดหัวเราะที่สนามหลวง ตอนนั้น มศว. ออกสื่อเยอะ เหลือเชื่อเลย ปรากฏว่าตัวเลขลดลงมาก ผมว่าเสียงหัวเราะมันแปลก ทำให้คนที่ซึมเศร้าได้มีชีวิตใหม่” อ.วัลลภเรียกวิธีการหัวเราะแบบนี้ว่า “เสียงบำบัด” “จากการศึกษา เสียงที่ดีที่สุด ก็คือเสียงฮัมเสียง-ร้องเพลง แต่ 2 อย่างนี้ก็ต้องใช้ความคิด ต้องใช้ความจำเสียงเพลง ซึ่งเสียงที่ดีกว่านั้น ก็คือเสียงบำบัดด้วยการเปล่งเสียง อา อี้ อู เพื่อปลดปล่อย ซึ่งผมก็จับเอา 2 สิ่งนี้มาผนวกเข้ากับเสียงหัวเราะซึ่งเป็นที่ดีที่สุดของชีวิตคนเรา” หลังจากโครงการนี้ออกไปสู่ทุกสาธารณชนได้ไม่นาน ทุกๆ วันพฤหัสบดี ที่ มศว. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร มีคนหลั่งไหลเข้า มาใช้บริการมากอย่างไม่น่าเชื่อ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ คนที่นอนไม่หลับ เครียด หรือคนที่มีอาการของโรคอื่นๆเช่น กล้ามเนื้อชา กระดูกเสื่อม คนกลิ่นตัวแรง สิวเยอะ หรือแม้แต่มะเร็ง ดีขึ้นแบบไม่น่าเชื่อ คนกรุงเทพฯอยู่ในอาการน่าเป็นห่วงที่สุด เริ่มจาก นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ และกลุ่มคนที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ สมอง กระดูกกล้ามเนื้อเสื่อม โรคชาตามเนื้อตัวก็มีจำนวนมาก ทั้งยังมีโรคเสื่อมสมรรภาพทางเพศอีกด้วย “กลุ่มผู้หญิงมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากช่องคลอดมากขึ้น เพราะไม่ค่อยเขย่าความเครียด แถมมีกางเกงในปิดอับ แบคทีเรียก็มาก ป้องกันโรคเหล่านี้ได้แค่หัวเราะอย่างถูกวิธี จะทำให้เซลล์ทุกเซลล์ขยับขับเคลื่อนมันเหมือนการออกกำลังกายแบบไม่เสียเงิน” |
||||
ชมรมหัวเราะบำบัดนี้ บริการฟรี ตั้งแต่ 14.00 น. ทุกวันพฤหัสบดี !! แนะนำว่า ถ้าเป็นผู้หญิงไม่ควรใส่กระโปรง เพราะต้องกระโดดโลดเต้น “จริงๆ แล้วผมอยากบอกว่าความเครียดเป็นปลายเหตุ คิดร้าย คิดมาก ทำมาก ทำน้อย ก็เครียด พอเครียดก็เป็นโรคไง ทุกวันนี้เรารักษาที่ปลายเหตุ ก็อยากให้ลองมารักษาที่ต้นเหตุ ลองมาหัวเราะแบบถูกวิธีกัน” มาร่วมหัวเราะเพาะอารมณ์ดี, มาร่วมหัวเราะเพาะความคิดสร้างสรรค์, มาร่วมหัวเราะเพาะความสัมพันธ์, มาร่วมหัวเราะเพาะรักสามัคคี ชมรมหัวเราะบำบัดจะจัดงานเทิดพระเกียรติให้กับพ่อหลวง ในชื่อ “หัวเราะเพาะสมานฉันท์” โดยตัวแทนคนใน 64 จังหวัดมาทำการแข่งหัวเราะในวันที่ 28 พ.ย. 50 นี้ ที่ มศว ประสานมิตร ในอนาคต หมอวัลลภ ปิยะมโนธรรม เตรียมจัดคอร์ส “สอนหัวเราะ 7 อย่าง และระหว่างนี้กำลังจะจัดทัวร์หัวเราะบำบัดไปตามสถานที่ต่างๆทั้ง ภาคเหนือ ใต้ ออก ตก “ ผมอยากให้สยามเป็นเมืองแห่งเสียงหัวเราะมากกว่ารอยยิ้มครับ” หมอวัลลภกล่าวปิดท้ายกับ Metro Life สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.0-2204-1000, 02-649-5000 ต่อ 5438 วิธีหัวเราะบำบัด แบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นการวอร์มเครื่อง คือ วิทยากรก็จะให้ผู้เข้าร่วมขยับให้ร่างกายและเส้นประสาทเพื่อขยายทุกๆ ส่วนของร่างกาย เมื่อหัวเราะสารแห่งความสุขเช่นเอนโดรฟีล เซลาโทนิน อะดรินาลีน จะอยู่ที่สมองแล้ววิ่งไปทั่วร่างกาย ทำให้แจ่มใส หายเครียด ขั้นตอนที่ 1. คือหัวเราะแบบพื้นฐานประมาณ ครึ่งชั่วโมง จากนั้นจะมีหาว – โวยวาย – ร้องไห้บำบัด ขั้นตอนที่ 2 ค ือขั้นการปรับทุกข์ ปรึกษาบำบัด แยกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน เพื่อเล่าเรืท่องเครียดในคนในกลุ่มฟัง คนที่นั่งดูก็ต้องหัวเราะเพื่อปลดปล่อย (หัวเราะ) อย่างครื้นเครง เพื่อจะแก้ปัญหาเรื่องจิตสำนึกให้เป็นคนมองโลกในแง่ดี ขั้นตอนที่ 3 มาหัวเราะสุดชีวิต มือกาง กระโดดอย่างหลุดโลก ปลดปล่อยให้เอนโดรฟีลหลั่งออกมา จนหมดเกลี้ยงและกลับไปอย่างมีความสุข ************ โอ – อา – อู – เอ แนวคิดของการหัวเราะบำบัด อิงตามหลักของศาสตร์ตะวันออกที่มองทุกอย่างเป็นองค์รวม โดยเน้นฝึกด้วยท่าหัวเราะ หลายๆท่าต่อเนื่อง 2-3 ชั่วโมง เพราะในแต่ละท่าจะมีประโยชน์ต่างกัน โดยใช้เสียง โอ อา อู เอ นำมาประยุกต์ในกระบวนการหัวเราะบำบัด ซึ่งเป็นเสียงพื้นฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก สอนวิธีหัวเราะ |
||||
โ อ เสียงซานตาคลอส ประโยชน์ ทั้งลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก ตับ ไต และกระเพาะอาหารจะขยับขับเคลื่อน ท่านี้ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานดี บำบัดโรคลำไส้อักเสบ โรคกระเพาะอาหาร ท้องผูก ท้องเสีย รวมถึงคนที่มีปัญหาโรคอ้วน เป็นต้น |
||||
อา เสียงตัวโกงละครไทย ประโยชน์ กระตุ้นให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก หัวใจ ปอดและไหล่ขยับเขยื้อนไปด้วย ท่านี้จะช่วยให้อวัยวะบริเวณหน้าอกทั้งหมดทำงานได้ดีขึ้น และช่วยบำบัดโรคความดัน โรคหัวใจ โรคปอด อาการเจ็บแน่นหน้าอก เส้นเลือดหัวใจตีบ โรคขาดเลือด ที่สำคัญมันเพิ่มการสูบฉีดและการไหลเวียนเลือด |
||||
อู เสียงหมาหอน ประโยชน์ ท่านี้จะช่วยแก้ปัญหาเจ็บคอ คออักเสบ ปวดคอ คนที่มีปัญหาเนื่องจากต้องใช้เสียงเยอะๆ เช่น ครู นักร้องท่านี้จะช่วยให้คอโล่ง ช่วยรักษาโทนเสียง |
||||
เอ เสียงเล่นจ๊ะเอ๋กับเด็ก จมูกหัวเราะ ย่นจมูกขึ้นและทำเสียง “ฮึๆ” ในจมูกเหมือนม้า ท่านี้จะช่วยไล่สิ่งสกปรกในจมูกออกมา บำบัดภูมิแพ้ ไซนัส หวัด โดยเฉพาะปัญหาเรื่องระบบหายใจ ตาหัวเราะ กะพริบตาถี่ๆ กรอกตาขึ้นลงเป็นวงกลม แล้วเปล่งเสียง “อ่อย ๆ ๆ…” เล่นหูเล่นตา มองซ้ายที ขวาที ทั้งนี้ใครที่มีปัญหาตาแห้งหรืออยู่หน้าจอคอมพ์ฯ ท่านี้จะทำให้มีน้ำหล่อเลี้ยงที่ตา ช่วยให้ตาชุ่มชื้นขึ้น สมองหัวเราะ โดยธรรมชาติของมนุษย์เมื่อเครียดมักจะปิดปาก ทำให้ความดัน ขึ้นสมอง ท่านี้จะช่วยแก้ปัญหา โดยปิดปากแล้วเปล่งเสียง “อึ ๆ ๆ…” ให้เกิดการสั่นสะเทือน ขึ้นไปนวดสมอง ไหล่หัวเราะ ยืนตรงแล้วส่ายไหล่ไปมา เหมือนการว่ายน้ำฟรีสไตล์ และเปล่งเสียง “เอ เอะ” ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับไหล่ ท่านี้ช่วยได้ โดยเฉพาะในบริเวณไขสันหลัง ก้นและสะโพก เป็นต้น ************** ตลกคาเฟ่ |
||||
บนเวที แสงสีเสียงตระการตา ตัวหลักในคณะตลกกำลังชงมุก “ล้อ” เอกลักษณ์ของนักร้องนำวงดัง อย่าง “แคลช, บอดี้สแลม, บิ๊กแอส” ทำไม้ทำมือเหมือนนักมวย ซึ่งจะว่าไปแล้วมุกล้อที่ว่าก็ไม่ได้แตกต่างกับที่เราเห็นๆ กันในรายการ TV สักเท่าไหร่ ผิดก็แค่บนเวทีนั้นจะมีทะลึ่งๆ หลุดกว่าเยอะ ทว่าความสด ห่ามตรงหน้ากลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คาเฟ่ยัง Cool ยังขายดีในสังคมที่คนมีแต่ความเครียด “ขนาดเราเป็นเจ้าของคาเฟ่เองเห็นทุกวันนะ ยังแอบแวะมานั่งดู นั่งหัวเราะกับตลกคณะโปรดของเราอยู่บ่อยๆ” จรรยา สายพรชัย หรือฉายาที่ใครๆ เรียกเธอว่า “เจ้าแม่คาเฟ่แห่งกรุงธน คอมเพล็กซ์” ศูนย์รวมความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเล่าไปยิ้มไปด้วยความภูมิใจ ซ้อจรรยา ก่อนที่จะปลุกปั้นธุรกิจคอมเพล็กซ์จนโด่งดัง เธอเคยบริหารคาเฟ่ที่บางแสนมาก่อนตั้งแต่ พ.ศ. 2523 จากนั้น 10 ปีจึงตัดสินใจทุ่มเงินมหาศาลเพื่อเปิดกรุงธน คอมเพล็กซ์ศูนย์รวมแห่งความบันเทิง มีทั้ง คาเฟ่ ลีลาศ อาบ อบ นวด และคาราโอเกะ บนเนื้อที่ใหญ่กว่า 4 ไร่ “ที่ตัดสินใจเปิดกรุงธนฯ เพื่อจะชูจุดขายว่าเป็นที่รวบรวมตลกคณะเก่งๆ ดังๆ มาไว้ที่นี่ให้มากที่สุดในประเทศไทย เพื่อคืนกำไรสูงสุดให้แก่ลูกค้า ซึ่งตอนนั้นคนในประเทศกำลังเครียดจากปัญหาบ้านเมือง และเศรษฐกิจ” “ตอนนั้นเรารับหมด เมื่อ 20 ปีที่แล้วคณะตลกดังๆ ไล่ไปตั้งแต่คณะป๋าต๊อก จุ๋มจิ๋ม หนู เต่า ดู๋ ดอกกระโดน เด๋อ ดอกสะเดา โน้ต เชิญยิ้ม เป็ด เชิญยิ้ม โย่ง บอล เชิญยิ้ม ฯลฯ ตลกทุกคณะต้องผ่านกรุงธน คอมเพล็กซ์หมด ตลกคาเฟ่มันบูมมากๆ ในช่วงนั้น” อย่างไรก็ดี แม้ซ้อจะบ่นว่าปัจจุบันนี้วิถีบริโภคของคนเที่ยวคาเฟ่จะเปลี่ยนไปบ้าง ส่วนหนึ่งเพราะพิษเศรษฐกิจ และอีกส่วนสำคัญก็คือ ตลกเล่นมุกซ้ำไม่ต่างไปจากตลกในทีวีที่ผุดขึ้นมาราวดอกเห็ด ซ้อจรรยาแก้ปัญหาด้วยการกระตุ้นให้คณะตลกหามุกใหม่ๆ สดๆ มาเล่นบนเวทีเพื่อหนีความจำเจของตลกทีวี ซ้อยึดนโยบายว่า ต้องไม่เอาเปรียบลูกค้า รายละเอียดมีว่า “เราขอความร่วมมือว่า อย่างธรรมดา พวกเขาจะเปลี่ยนมุกสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งหากสัปดาห์หนึ่งคุณก็ต้องเล่นถึง 2 รอบ ต้องคิดมุกเล่นไม่ให้ซ้ำกัน ที่สำคัญ เสน่ห์ความสดของตลกคาเฟ่ คือหัวหน้าตัวขายอย่าขาด ช่วยมาเป็นสีสัน เราจะไม่เอาเปรียบคนเที่ยว” นี่คือคำขอสำหรับตลกรุ่นเก๋า หากตลกรุ่นใหม่ซ้อบอกว่าก็จะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะออกรายการทีวียังไม่เยอะเหมือนคณะตลกดังๆ ดังนั้นจึงมีเวลาฝึกฝนคิดมุกได้มาก “อย่างพวกตลกใหม่ๆ อย่างนุ้ย-บอล เชิญยิ้ม หรือ ป็อป สกอร์เปี้ยน คนติด เขาเก่ง เล่นธรรมชาติดี มีการเอามุกการเมืองมาเสียดสีเล็กๆ บางทีเราฟังเขาแล้วเฮ้ย คิดได้ไงเนี่ย เดี๋ยวนี้ไม่มีใครบอกว่าตลกคาเฟ่ หยาบ ตลกรุ่นใหม่มีความรู้ ผู้ชมจะได้ทั้งเสียงหัวเราะแถมสาระ เหมือนเขาเอาข่าวมาย่อยให้ฟัง คนก็ชอบ” ฐานะเจ้าแม่คาเฟ่ ที่สุดแล้วเธอยังเชื่อว่าต่อให้ตลกในจอตู้มีมากแค่ไหน ถ้าสังคมยังมีความเครียดหมักหมมอยู่ ศาสตร์คลายเครียดอยู่ที่ไหนก็ขายได้ทั้งนั้น กรุงธน คอมเพล็กซ์ ************ บอล เชิญยิ้ม ตลกเคลื่อนที่ |
||||
มุกคาเฟ่ มุกรับเล่นนอกสถานที่ มีความแตกต่างกันกับตลกทีวีนิดหน่อย นี่คือทัศนะของบอล เชิญยิ้มที่บอกกับเรา “งานจ้างข้างนอก งานคาเฟ่ มันไม่ต้องเซฟเต็มที่ ใส่มุกได้เต็มตีน (หัวเราะ) แต่ทีวีต้องเซฟคำหยาบ เซฟหลายๆอย่าง ต้องเล่นให้ดูน่ารัก ซึ่งตรงนี้คือความแตกต่าง อย่างงานนอก และคาเฟ่สามารถเล่นได้เลย จะด่าพ่อล่อแม่ยังไงก็ได้ (หัวเราะ) หรือมีคำหลุดต่างๆ มากกว่าปกติ” ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีในการเล่นตลกอาชีพ ผ่านคาเฟ่มาหลากหลายแห่ง แหล่งทำเงินสำหรับตลกมืออาชีพ “มันเป็นอะไรที่ได้เงินมาก คนจบปริญญา บางทีเงินเดือนยังไม่ได้มากเท่ากับมาเล่นตลกคาเฟ่เลย คืนหนึ่งๆ วิ่งรอกเล่นหลายที่ คนหนึ่งๆ มีเงินไม่ต่ำกว่าสามพันบาทต่อวัน คณะผมมีสมาชิก 15 คน คืนหนึ่งมีรายได้หลายหมื่น” บอล เชิญยิ้ม กล่าว ในแต่ละคืน มีคนเข้าไปหาความสำราญกับคาเฟ่มากโขอยู่ อยากรู้มั้ยว่า ทำไม … คนติดคาเฟ่ “บางทีแขกมาเที่ยว เจอเด็กเสิร์ฟ เจอกัปตัน เจอตลกนี้ ก็มีแต่คนไหว้ มีแต่คนคอยเอาใจ พูดจาดี อารมณ์กลางคืนกับชีวิตประจำวันต่างกัน ตอนเช้า คุณจะถูกใครด่ามา เครียดกับคนโน้น คนนี้ แต่พอเข้าคาเฟ่ปุ๊บ เขาจะดูมีอำนาจ เป็นเสี่ยขึ้นมาทันที นี่คือเสน่ห์ที่ทำให้คนเสพติดคาเฟ่” |
||||
บอล เชิญยิ้มจะเปลี่ยนมุกอาทิตย์ละครั้ง อย่างกรุงธนฯ เนี่ยผมเข้าทุกวัน ต้องเปลี่ยนมุกไปเรื่อย เพื่อไม่ให้จำได้ “เพื่อความสนุก ความเป็นกันเอง พอแขกสนุก เราก็เล่นกับแขกได้แล้ว ซึ่งเทคนิคในการดูแขก ต้องดูที่แววตา ถ้าแหย่ไปแล้วไม่เล่นด้วย เราก็ถอยดีกว่า (หัวเราะ) เราก็เปลี่ยนไปเล่นอย่างอื่น ผมว่าบรรยากาศคาเฟ่มันสนุกทุกๆ วัน เจอคนไม่ซ้ำกัน เจอผู้หญิง เด็ก และอะไรเต็มไปหมด” บอลเผยเทคนิค คนที่อยากสัมผัสกับความฮาของคณะ บอล เชิญยิ้ม นอกเหนือจากหาชมได้จากคาเฟ่แล้ว ยังรับงานตลกนอกสถานที่ด้วย “พวกผมเป็นตลกเคลื่อนที่ครับ” *************** พระมหาสมปอง |
||||
หลายสิบปีก่อนเรามี พระพยอม กัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้ว เป็น“ป็อปปูลาร์” สุดยอดของพระนักเทศน์ นักทอล์ก นักพัฒนา ด้วยเอกลักษณ์การย่อยธรรมะให้เป็นเรื่องฟังง่ายและสนุก มา พ.ศ. นี้ แรงเหวี่ยงของกระแสการเทศน์ Entertain ได้กลับมาฮอตอีกครั้ง โดยมี “พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต” แห่งวัดสร้อยทอง เป็นพระนักทอล์กสายเลือดใหม่ การันตีความฮิตด้วยกิจนิมนต์ เดือนละ 240 งาน เป็นธรรมะฉบับเฮฮา เหมือนเอา “วานิลลามาเคลือบแก่นธรรม” ให้มีรสหวาน รับประทานง่าย ท่านเริ่มการผสมกันระหว่างการเทศน์กับวิธี Entertain เมื่อไหร่ ชอบขนาดที่ว่าต้องจดๆ มุกว่า ท่านเทศน์ยังไง ฮา-หยอด-ตบยังไง เราก็เอาหมด ซึ่งคำพวกนี้สำคัญถ้าผิดจังหวะมันไม่ฮา อย่างคำคม ถ้าไม่ถูกคำเดียวก็ไม่คม เช่น “บางสิ่งก็ไม่ควรจำ ถ้ามันทำให้ใจเจ็บ บางสิ่งมันก็ควรเจ็บ ถ้ามันเป็นสิ่งที่น่าจำ” ถ้าพูดผิดก็จะไม่คม อาตมามองว่าการเทศน์ Entertain เป็นการจับจุดของคนไทยที่ชอบความสนุกสนาน อย่างดี และโดน ก็จะฮิต แต่ถ้าดีแต่ไม่สนุกคนไทยไม่รับ งั้นเราลองมาสนุกซะหน่อย โดยอาตมายึดคำสอน 5 ส. สนุกคือเปิดใจ สาระนำไปใช้ สงบทำให้จิตใจสบาย สติ-สำนึกจะได้ให้เรากลับไปใช้ ” เทศน์ครั้งแรกเป็นยังไงฮอตไหมครับ หัวใจของการเทศน์แบบ Entertain อะไรสำคัญที่สุด หรือหากพูดเรื่องเพลงโดยมีการอิงกระแสข่าวใหม่ๆ (กรมสุขภาพจิตออกมาติง เพลง “แทงข้างหลัง”ส่อจะทำให้คนฆ่าตัวตาย) “เราก็จะเอามาสอดแทรกเอาไว้ด้วย เช่นฟังธรรมแล้วจะไม่อกหัก แต่ถ้าฟังออฟ ปองศักดิ์ “แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ” อย่างบางเพลงอาตมาไม่เคยได้ยินเลย อาศัยลูกศิษย์ อาศัยการถาม-อ่าน-ดู ซึ่งแต่ละวันอาตมาหาข้อมูลจริงๆ วันละไม่ต่ำกว่า 5 ชม. ทุกเช้า อ่านนสพ.ทุกเล่มก่อน 1 ชม. ขาดไม่ได้ นอกนั้นก็เป็นการอ่านระหว่างไปงาน พอกลับมาก่อนนอนก็จะดูเว็บต่างๆ วงการนี้ตันไม่ไ ด้ยิ่งต้องออกทีวี บรรยายสดต้องแอ็กทีฟตลอด” ตอนนี้คนเครียดจากการเมืองเยอะ อยากให้ท่านเทศน์สไตล์ท่านฟังแล้วย่อยง่ายๆ หรือบางคนบอกว่าสะสมจตุคามฯ อาตมาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าเราไปแขวนหลวงพ่อวัดปากน้ำ แขวนจตุคามฯ คิดและพูดไม่ดี สิ่งดีๆ จะอยู่กับเราไหม ก็ไม่อยู่ อย่างมีคนมาแนะนำว่า ถ้าเช่าจตุคามฯก็ต้องราคาไม่เกินห้าร้อยบาท เพราะราคานี้ท่านจะคุ้มครองเรา แต่ถ้าใครไปเช่าราคาเป็นแสน เป็นล้าน เราต้องคุ้มครองท่าน โอย…ต้องมีปืน 2 กระบอกเลยนะ แต่ไม่ต้องเป็นแสน เป็นล้าน แค่องค์ละหมื่นก็ต้องเอามือมาคลำตลอด ดังนั้น เรามาสะสมความดี สะสมคนดีเข้าสภาเยอะๆ บ้านเมืองเราก็จะเจริญรุ่งเรือง” ถ้าหากเป็นปัญหา เรื่อง ดารา วัยรุ่น แฟชั่น ท่านจะเทศน์สอนเยาวชนอย่างไร…? อ้อ ! กระโปรงสั้นตามระดับความอายที่ลดลง เออ ! พระน่าจะอย่างนี้บ้างนะลูกนะ อย่างพรรษาเนี่ยจีวรยาวถึงตาตุ่มเลย พรรษา 2 ก็ครึ่งเข่าเห็นขนขาเป็นเรียวงาม พรรษา 3 เลยเข่าขึ้นมา เราก็บอกว่าเสื้อผ้าไม่ได้เกี่ยวกับสมอง แต่มันเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่ดีงาม ฉะนั้นสิ่งไหนที่ดาราดีงามแล้วเราก็เลียนแบบได้ ดูอย่าง หม่ำ เขาให้เกียรติคน ตรงต่อเวลา กว่าจาพนมจะโด่งดังเป็นโทนี่จา โหย เลี้ยงช้าง ไถนา กว่าจะมาเป็นสตันต์ และเดินเขาหาโอกาส เอาปมด้อยพัฒนาตัวเอง ฉะนั้นเรามาดูตรงนี้อันไหนเป็นสิ่งไม่ดีดาราคนไหนติดยาเสพติด ก็อย่าไปเลียนแบบ” |
||||
ปัจจุบันนี้ท่านเลือกรับกิจนิมนต์อย่างไร…? ปัจจุบันงานชุกแค่ไหน งานประเภทไหนได้รับกิจนิมนต์มากที่สุด “วันนี้อย่าทำนมหก” เคล็ดทำลายความทุกข์ หลายคนฟังแล้วร้องว้ายเลยคาถาอะไร…? อย่าทำนมหกคุณโยมลองเขียนเรียงกันลงมา อย่า –อย่าท้อเมื่อพลาดพลั้ง ทำ- ทำความหวังขึ้นมาใหม่ นม- นมนานสักแค่ไหน หก-หกล้มไปเจ็บชั่วคราว วันนี้คุณอย่าทำนมหกแล้วหรือยัง…? “คือเทคนิคการเทศน์ให้สนุกและดีแบบนี้ แบบมีให้ลุ้น แต่ก็ต้องระวังว่าอย่าให้ 2 แง่ 2 ง่ามนะ และไม่หยาบคาย อันนี้เป็นสิ่งที่พระพยอมสอนอาตมา ท่านบอกว่าถ้าทำได้จะเป็นพระนักพูดที่อมตะ” มีคนบอกว่าท่านเป็นพระพยอม 2 ท่านคิดอย่างไรครับ…? ติดต่อสอบถามวิธีการรับกิจนิมนต์ทีมวิทยากร “ธรรมะดิลิเวอรี” หนังสือคลายเครียดของ พระมหาสมปอง 1. หนังสือทุกเล่มของหนุ่มเมืองจันทร์ ฟาสต์ฟูดธุรกิจ ************ ตลกปัญญาชน 5 เรื่องที่ควรหามาชม Top Secret! (1984) |
||||
ก่อนหน้า Austin Powers และ Date Movie จะถือกำเนิด ยังมีกลุ่มนักทำหนังที่ชื่อว่า ZAZ เจ้าของสูตรสำเร็จของหนังล้อหนัง ซึ่งไม่เน้นพล็อต ตัวละคร หรือความเป็นเหตุเป็นผลใดๆ เพราะสิ่งเดียวที่พวกเขา (สามผู้กำกับ/เขียนบท จิม อับราฮัม, เดวิด ซัคเกอร์ และเจอร์รี่ ซัคเกอร์) ต้องการ คือ ทำให้คนดูหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง ถ้าต้องเลือกหนังของ ZAZ เพียงเรื่องเดียว หลายคนอาจคิดถึง Airplane! หรือ The Naked Gun แต่ผมกลับชื่นชอบผลงาน ซึ่งไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จของพวกเขาเรื่องนี้มากกว่า เป้าล้อเลียนหลักได้แก่ หนังสายลับทั้งหลายและหนังเพลงของ เอลวิส เพรสลีย์ แก๊กตลกสารพัดสารเพอัดแน่นอยู่ในทุกฉากทุกตอน จนไม่อาจระบุให้แน่ชัดไปได้ว่าไฮไลต์อยู่ตรงไหน แต่หนึ่งในนั้นเห็นจะเป็นฉากวัวกระทิงไล่กวดวัวปลอมพร้อมดนตรีประกอบจากหนัง เรื่อง Jaws There’s Something About Mary (1998) แบบฉบับของหนังตลกยุคใหม่ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงจนทำให้หลายคนพยายามเลียนแบบ กระทั่งพยายามจะวิ่งแซงหน้าด้วยการคิดหาแก๊กตลกที่ลามกกว่า และโจ่งแจ้งกว่า แต่สุดท้ายกลับไม่มีหนังเรื่องใดเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างทรงประสิทธิภาพเท ่าผลงานชิ้นเอกเรื่องนี้ของสองพี่น้อง บ็อบบี้ กับ ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี่ ที่เล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวแสนสวยที่ใครๆ ต่างพากันตกหลุมรัก เบน สติลเลอร์ เล่นบทไอ้ขี้แพ้ได้เก่งกาจชนิดไม่เป็นรองใคร ส่วน คาเมรอน ดิแอซ ก็ดูสวยใสไร้เดียงสาได้อย่างสมจริงจนนักวิจารณ์บางสถาบันถึงขั้นมอบรางวัลนั กแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประจำปีให้เธอ หนังอุดมไปด้วยฉาก “คลาสสิก” นับสิบ ตั้งแต่การใช้น้ำกามแทนเจลแต่งผม ไปจนถึงภาพสุนัขเข้าเฝือกแบบเต็มตัว ทว่าจุดเด่นหนึ่งของหนังอยู่ตรงที่มันสามารถทำให้คนดูลุ้นเอาใจช่วยตัวเอกให ้เอาชนะใจหญิงสาวได้ในท้ายที่สุด |
||||
When Harry Met Sally (1989) Tootsie (1982) Liar Liar (1997) |
ที่มาจาก Manager Metro Life
รวมความรู้เรื่องการหัวเราะ ไว้ได้เยอะจริง ๆ เยี่ยมมาก ๆ ชอบชมรมหัวเราะบำบัด สงสัยสมาชิกชมรมหัวเราะกันทั้งวัน
เสียงหัวเราะช่วยทำให้คนมีความสุขนะครับ แต่อันที่จริงคงไม่มีใครเสียใจแล้วหัวเราะหรอก 5555